ผู้เขียน หัวข้อ: *** สำหรับผู้ใช้เครื่องยนต์รุ่นสุดท้าย N42-N46 ก่อนเปลี่ยนเป็น E90 กรุณาสละเวลามาลงชื่อด้วยครับ ***  (อ่าน 87133 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
ตัวอย่างคราบโคลน น้ำมันเครื่อง ใน N42 ที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ 2.5 หมื่นกิโล
รวมถึง การด้อยคุณภาพน้ำมันเครื่องที่เลือกใช้ เป็นเวลานาน

 เราใช้น้ำมันเครื่อง -1 หมื่นกิโลเมคร ก็ควรเปลี่ยนครับ  :-*



ในภาพ โคลนน้ำมันจะเข้าไปอุดตามช่องน้ำมัน และ ส่วนต่างๆ รวมถึงชุดสกรูดันโซ่ ทำให้ ฝืด Lock ไม่ทำงาน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 11, 2013, 22:37:57 โดย Krisada511™ »
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

koobe

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 232
  • มิตรภาพ สำคัญ ยิ่งกว่าเงิน
    • http://www.thailandoffroad.com/jeep/
จริงครับพี่กฤษดา เครื่องN42รถผม ก่อนหน้านี้  เสียงเครื่องยนต์ ดังมาก(เสียงเหมือนเครื่องรถดีเซล ที่เป็นระบบโซ่ขับ ดัง) ผมว่าน่าจะเกิดจากลักษณะแบบที่พี่พูดมา คือน้ำมันเครื่องเป็นโคลนเกาะติดตามชิ้นส่วนในเครื่องทำให้ฝืด (รถผมเมื่อก่อนตั้งแต่ออกป้ายแดงมาก็ใช้บริการศูนย์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่25000โลมาตลอด ตอนนี้ใช้มาจะ3แสนกิโล )และจนถึงเมื่อ2เดือนที่แล้วผมได้ให้ พี่ช่างรุทเปลี่ยนถ่าย น้ำมันเครื่อง ก็เลยทำฟลัชชิ่ง ออยไม่รู้เรียถูกหรือป่าว (คือใช้น้ำมันล้างคราบ โคลนในเครื่อง ) สรุปตอนนี้เสียงเครื่อง(โซ่)ดังเบาลงมากๆและอาการเครื่องรอบตก ช่วงเช้าที่เครื่องเย็น จะสั่น เร่งไม่ขึ้น ตอนนี้ไม่เป็นแล้วครับ(เรื่องนี้ต้องขอขอบคุณ พี่ แจ ด้วยครับที่แนะนำ เรื่องเบอร์ น้ำมันเครื่องและใช้กล้องส่องและชี้ให้เห็นว่าในเครื่องยนต์มันมีโคลนและโซ่หย่อนแล้ว) เดี๋ยวนี้ผมใช้น้ำมันเครื่อง เซเนติคเกรด0-40w ธรรมดาๆราคาไม่ถึงพันบาทแต่เปลี่ยถ่ายที่ไม่เกิน7-8000กิโล ได้เช็ค นมค.เมื่อ4000โลไม่ขาดเลยครับ :-X
มิตรภาพ ที่เกิดขึ้น  บนเส้นทาง ธุรกิจ
ย่อมดีกว่า
ธุรกิจ     ที่เกิดขึ้น บนเส้นทาง มิตรภาพ

chaky

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 1584
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
เดี๋ยวนี้ผมใช้น้ำมันเครื่อง เซเนติคเกรด0-40w ธรรมดาๆราคาไม่ถึงพันบาทแต่เปลี่ยถ่ายที่ไม่เกิน7-8000กิโล ได้เช็ค นมค.เมื่อ4000โลไม่ขาดเลยครับ [/color] :-X

การใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ธรรมดาและอาศัยการเปลี่ยนบ่อย
จะมีผลเสียมากกว่า
ใช้น้ำมันเครื่องที่ดีกว่าและเปลี่ยนตามระยะครับ

เพราะคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องที่ดีกว่าจะมีคุณภาพมากกว่าสูงกว่า
ในการลดการสึกหรอและปกป้องเครื่องยนต์ได้มากกว่าแม้จะเปลี่ยน
ช้ากว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ธรรมดาทั้งที่เปลี่ยนเร็วกว่าครับ

"Believe Me I'm Engineer"
จาก ช่างยนต์ กลายร่างมาเป็น วิศวะไฟฟ้า

Awirut

  • klass 71 ไม่ใหญ่ แต่ไม่เคยกลัวใคร
  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 10231
  • ตอนนี้มีปัญญาหาได้แค่นี้ E46-323,E90-320,X1,X3
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
เดี๋ยวนี้ผมใช้น้ำมันเครื่อง เซเนติคเกรด0-40w ธรรมดาๆราคาไม่ถึงพันบาทแต่เปลี่ยถ่ายที่ไม่เกิน7-8000กิโล ได้เช็ค นมค.เมื่อ4000โลไม่ขาดเลยครับ [/color] :-X

การใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ธรรมดาและอาศัยการเปลี่ยนบ่อย
จะมีผลเสียมากกว่า
ใช้น้ำมันเครื่องที่ดีกว่าและเปลี่ยนตามระยะครับ

เพราะคุณสมบัติของน้ำมันเครื่องที่ดีกว่าจะมีคุณภาพมากกว่าสูงกว่า
ในการลดการสึกหรอและปกป้องเครื่องยนต์ได้มากกว่าแม้จะเปลี่ยน
ช้ากว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ธรรมดาทั้งที่เปลี่ยนเร็วกว่าครับ

ถ้าคนใช้รถน้อยไม่จำเป็นครับ เพราะอายุนำ้มันจะหมดก่อนที่เลขกิโลจะถึง จึงเทียบกับคนที่ใช้รถ 100-200 ต่อวันไม่ได้ (การใช้นำ้มันมันขึ้นอยู่ว่าคุณใช้รถแค่ไหนมากกว่า)

เพระถ้าคุณเติมนำ้มันดี+แพง แต่รถแทบจะไม่ได้ใช้ สุดท้ายพอระยะเดือนได้ คุณก็ต้องถ่ายทิ้ง ทั้งๆที่รถวิ่งไปนิดเดียวเอง มันเปลืองโดยใช่เหตุครับ (เพราะนำ้มันจะถูกหรือจะแพง ระยะหมดอายุจะเท่าๆกัน คือครึ่งปี) เพราะถ้าคุณเห็นว่านำ้มันดี+แพง แล้วจะใช้ได้นานกว่า จะบอกว่าคุณคิดผิดแล้วครับ

ขออีกนิด ขนาดนำ้มันที่ยังอยู่ในแกลอนที่ยังไม่ได้ใช้ ยังต้องควนเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมเลยครับ คนส่วนใหญ่เอาไปใว้ที่ท้ายรถ อันนี้ก็แค่คนใช้คิดกันไปเองว่ามันสะดวกควรมีไว้ฉุกเฉิน (ถ้าท้าย BMW มันไม่ร้อนเหมือนทุกวันนี้เก็บได้ แต่ท้ายรถเรามันร้อนเกินไปครับ นำ้มันที่เก็บไว้ก็จะเสื่อมไปเลยๆเช่นกันทั้งๆที่ไม่ได้ใช้

คิดกันใหม่นะครับ เพราะอาจจะทำให้เชื่ออะไรผิดๆอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 12, 2013, 08:53:47 โดย Awirut »

I Love e46 323 I  >!<. 
ใครมีปัญหาเรื่องรถ สามารถโทรปรึกษาได้ครับ 082-365-6523 รุทธ์. หรือ แอดlineมาที่rut467

chaky

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 1584
5555 ผมเชื่อไม่ผิดหรอกครับคุณรุท  :D

ผมก็คิดเอาจากค่าเฉลี่ยของคนที่ใช้รถทั่วไปครับ
ส่วนคนที่มีรถแต่ขับน้อยมากๆๆๆนั้นผมคิดว่าเป็นส่วนน้อยจริงๆครับ

ยิ่งเป็นยี่ห้อ BMW แล้วด้วยนั้นยิ่งขับกันระเบิดเลยครับ
เพราะ BMW is joy !! ขับแล้วมันสนุกจริงๆครับ
นั่งหลังพวงมาลัยเมื่อไหร่เป็นขับเร็วทุ๊กทีเลย 5555

ส่วนน้ำมันเครื่องที่เก็บไว้ท้ายรถก็ไม่ได้แช่เอาไว้แบบนั้น
ทั้งปีทั้งชาติครับ.  เวลาถึงระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรอบต่อไป
ก็เอาที่เก็บสำรองท้ายรถมาเติมลงไปส่วนน้ำมันเครื่องที่เพิ่งจะซื้อมาใหม่
ก็ขยักไปเก็บสำรองเอาไว้แทน อย่างนี้ที่ท้ายรถก็จะมีน้ำมันใหม่
ไว้ใช้งานยามจำเป็นฉุกเฉินครับ (ดีกว่าต้องไปเอายี่ห้ออื่นผสมครับ)
และที่สำคัญตามที่หลายๆท่านเป็นกันก็คือ หลังจากวิ่งไปสัก 5-6พันกิโลเมตร
น้ำมันเครื่องหายก็ต้องเติมลงไปอยู่ดี
ดังนั้นไอ้ 1ลิตรที่เก็บไว้ก็ได้นำออกมาใช้งานแน่นอนครับผม ;)

เพราะทุกการใช้งานของแต่ละท่านก็ไม่เหมือนกันครับ
ไม่มีอะไรเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับทุกคำถามครับ
ก็แล้วแต่วิธีการใช้งานของแต่ละบุคคลครับ.
ตามที่กล่าวข้างต้นครับ ความเห็นผมสำหรับผู้ที่ขับขี่แบบพอสมควรถึงขับขี่มากครับ :-*

"Believe Me I'm Engineer"
จาก ช่างยนต์ กลายร่างมาเป็น วิศวะไฟฟ้า

Awirut

  • klass 71 ไม่ใหญ่ แต่ไม่เคยกลัวใคร
  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 10231
  • ตอนนี้มีปัญญาหาได้แค่นี้ E46-323,E90-320,X1,X3
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
5555 ผมเชื่อไม่ผิดหรอกครับคุณรุท  :D

ผมก็คิดเอาจากค่าเฉลี่ยของคนที่ใช้รถทั่วไปครับ
ส่วนคนที่มีรถแต่ขับน้อยมากๆๆๆนั้นผมคิดว่าเป็นส่วนน้อยจริงๆครับ

ยิ่งเป็นยี่ห้อ BMW แล้วด้วยนั้นยิ่งขับกันระเบิดเลยครับ
เพราะ BMW is joy !! ขับแล้วมันสนุกจริงๆครับ
นั่งหลังพวงมาลัยเมื่อไหร่เป็นขับเร็วทุ๊กทีเลย 5555

ส่วนน้ำมันเครื่องที่เก็บไว้ท้ายรถก็ไม่ได้แช่เอาไว้แบบนั้น
ทั้งปีทั้งชาติครับ.  เวลาถึงระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรอบต่อไป
ก็เอาที่เก็บสำรองท้ายรถมาเติมลงไปส่วนน้ำมันเครื่องที่เพิ่งจะซื้อมาใหม่
ก็ขยักไปเก็บสำรองเอาไว้แทน อย่างนี้ที่ท้ายรถก็จะมีน้ำมันใหม่
ไว้ใช้งานยามจำเป็นฉุกเฉินครับ (ดีกว่าต้องไปเอายี่ห้ออื่นผสมครับ)
และที่สำคัญตามที่หลายๆท่านเป็นกันก็คือ หลังจากวิ่งไปสัก 5-6พันกิโลเมตร
น้ำมันเครื่องหายก็ต้องเติมลงไปอยู่ดี
ดังนั้นไอ้ 1ลิตรที่เก็บไว้ก็ได้นำออกมาใช้งานแน่นอนครับผม ;)

เพราะทุกการใช้งานของแต่ละท่านก็ไม่เหมือนกันครับ
ไม่มีอะไรเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับทุกคำถามครับ
ก็แล้วแต่วิธีการใช้งานของแต่ละบุคคลครับ.
ตามที่กล่าวข้างต้นครับ ความเห็นผมสำหรับผู้ที่ขับขี่แบบพอสมควรถึงขับขี่มากครับ :-*

ของผมก็ตอบไว้สองแบบแล้วนะครับ คือถ้าใครใช้รถมากก็ใช้ของดี+แพงได้ เพราะมันคุ้ม ส่วนใครที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ ในส่วนนี้ผมก็บอกว่ามันไม่จำเป็นก็แค่นั้น เพราะเติมของแพงแต่ไม่ได้ใช้ประโยชมันเท่าไรอะไรประมาณนี้ครับ ส่วนนำ้มันเครื่องท้ายรถถ้าคิดว่ารถของท่านนำ้มันขาดง่ายขนาดนั้น ก็เก็บไว้ท้ายได้ครับ เพราะการที่จะขับรถมันต้องเช็คก่อนเดินทางไม่ใช่ขับไปแล้วค่อยมาเช็คกลางทาง(อันนี้สำหรับรถที่ไม่ทานนำ้มันครับ) :-X

I Love e46 323 I  >!<. 
ใครมีปัญหาเรื่องรถ สามารถโทรปรึกษาได้ครับ 082-365-6523 รุทธ์. หรือ แอดlineมาที่rut467

koobe

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 232
  • มิตรภาพ สำคัญ ยิ่งกว่าเงิน
    • http://www.thailandoffroad.com/jeep/
 เดี๋ยวนี้ผมใช้น้ำมันเครื่อง เซเนติคเกรด0-40w ธรรมดาๆราคาไม่ถึงพันบาทแต่เปลี่ยถ่ายที่ไม่เกิน7-8000กิโล ได้เช็ค นมค.เมื่อ4000โลไม่ขาดเลยครับ [/color] :-X
[/quote]

การใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ธรรมดาและอาศัยการเปลี่ยนบ่อย
จะมีผลเสียมากกว่า
ใช้น้ำมันเครื่องที่ดีกว่าและเปลี่ยนตามระยะ
[/quote]

อันนี้ก็ถูกต้องนะครับพี่ chakey แต่เมื่อก่อน(เคยรวย)รถผมก็ใช้ คาสตรอน เปลี่ยนถ่ายที่ศูนย์ bmw(25000km) มาตลอด ประมาณ4-6เดือนเปลี่ยนถ่ายครั้งผมว่าเวลาและระยะทางมันนานเกินไป (ที่สำคัญแพงและไม่คุ้มค่า แล้วเครื่องก็มีปัญหาหลวมเหมือนกัน) สู้ใช้แบบตอนนี้(จนแล้ว)แต่เปลี่ยนถ่ายให้เร็วขึ้น ไม่เกิน3เดือนหรือ8000 km. ดีกว่า  เอาเงินส่วนต่างค่าน้ำมันเครื่องเก็บไว้ซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ที่เคยบำรุงรักษามาอย่าดี ใช้ของดีๆ มีรับประกันศูนย์ดีกว่ามั้ยครับพี่   :-X
มิตรภาพ ที่เกิดขึ้น  บนเส้นทาง ธุรกิจ
ย่อมดีกว่า
ธุรกิจ     ที่เกิดขึ้น บนเส้นทาง มิตรภาพ

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
ชอบครับ

มิตรภาพ ที่เกิดขึ้น  บนเส้นทาง ธุรกิจ
ย่อมดีกว่า
ธุรกิจ  ที่เกิดขึ้น บนเส้นทาง มิตรภาพ
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/

*** มาดูระบบ cooling system ของรถเรา  ***

อันนี้เอาภาพ ของเครื่อง 6 สูบมาให้ขมนะครับ




คำอธิบายอยู่ในภาพ ถ้าดูแลระบบสมบูรณ์ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรครับ  เวลาความร้อนขึ้น ถ้าสายตาคุณไม่ได้มองเกจุความร้อนไว้
มันก็จะมีการเตือนทางผิวหนัง เพราะ ระบบแอร์ ( ทำความเย็นจะหยุดทันที )  เพื่อไปชดเชยระบบพัดลมเป่าให้หม้อน้ำ
ดังนั้น ขับๆ อยู่ แอร์ดับไป ก็กรุณาจอด ... และ รอรถสไลด์ออน  หรือจะรอเครื่องเย็น เติมน้ำ ขับไป จอดไป ถึง อู่   :-*

ดังนั้น 7-8 ปี ...... เปลี่ยนหม้อน้ำได้เลย ไม่ต้องรอ พร้อมตรวจท่อน้ำแตกร้าวชำรุด โอริง ตามหัวต่อต่างๆ
จะช่วยไม่ให้ ออย์เกียร์ ออย์เครื่อง แตก ..... แล้วก็ใช้สบายไปอีก 7 ปี  ( ถ้ายังไม่ขายรถ )  :-*

รถ BMW ระบบระบายความร้อนสำคัญมาก
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
ออย์เกียร์ จะต่ออยู่ฝั่งด้านน้ำร้อน เพื่ออุ่นอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ให้มีความเหมาะสม ในการทำงานในระบบ
ที่วิศวกรความรู้สูง มี LAB ทดสอบ หลายพันชั่วโมง ออกแบบมาดีแล้ว ว่าเย็นไป ร้อนไป ก็ไม่ดี  :-*




 
การทดสอบหลักใน Thermal and Climatic Wind Tunnels คือ การทำ Stress Test กล่าวคือ การทดสอบการทำงานในระดับอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งระบบปั๊มน้ำมันเครื่องและระบบปั๊มน้ำหล่อเย็น ระบบเบรกและการระบายความร้อนของเบรก รวมถึงระบบเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้แน่ใจว่าภายใต้ทุกระบบยังสามารถทำงานได้ตามปกติภายใต้สภาพอากาศและสภาวะการขับขี่แบบสุดขั้ว เช่น ร้อนจัดหรือหนาวจัด ในขณะที่รถยนต์บรรทุกและลากจูงเต็มพิกัด หรือวิ่งที่ความเร็วสูงเป็นเวลานานติดต่อกัน ซึ่ง Thermal and Climatic Wind Tunnels สามารถควบคุมตัวแปรต่างๆ เช่น อุณหภูมิจากช่วง -20 ถึง 45 องศาเซลเซียส ความชื้น และความเร็วลมสูงถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 12, 2013, 12:18:07 โดย Krisada511™ »
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
Making_of_an_BMW E46

ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
ด้วยความสงสัยในเรื่องการแยกออย์เกียร์ ใน N42- N46  จำเป็นหรือไม่

จึงเขียนคำถามไปขอความรู้จากพี่สุเมธ  ก็ได้รับคำตอบและคำแนะนำมาดังนี้


1.BMW รุ่นใหม่ๆ ทำไม ไม่แยกออย์เกียร์
มันเป็นสากลของรถยุโรป ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ทุกสภาพอากาศ เช่น ร้อน / หนาว /หิมะ / ชื้น สามารถใช้งานได้ทุกสภาวะ เนื่องการออกแบบให้สมบูรณ์ของฝ่ายออกแบบ และฝ่านทดสอบ และแก้ไขมาแล้วอย่างดี (ไม่มีรถใหม่ๆๆคันไหน ออยเกียร์แตก เนื่องจากระบบหล่อเย็นทำงานได้สมบูรณ์ )


2. ประเทศร้อนแถมทะเลทราย ซาอุ ฯลฯ เขาแยกออย์เกียร์ หรือไม่ครับ หรือ แค่เปลี่ยนวาล์วน้ำจาก 110 เป็น 95 องศา


ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร ในอเมริกา ก็มีทะเลทราย ความร้อนก็พอๆ กัน เครื่องยนต์จะทำงานได้ดีคืออุณหภูมิ ที่กำหนดนี้คับ การจุดระเบิดถึงจะสมบูรณ์
ที่ๆๆต้องเปลี่ยนทุกประเทศ คือ น้ำมันเครื่อง แต่ละประเทศอุณหภูมิจะต่างกัน การเลือกใช้น้ำมันเครื่องนั่นล่ะถูกต้องคับ แต่การแยกออยเกียร์ที่เป็นระบบปิด มาทำให้เป็นระบบเปิด ผิดวิธีคับ และเสียเงินซ้ำซ้อน
 

3. เครื่องเก่าจาก Japan หรือ HK เคยเจอแยก ออย์เกียร์มาไหมครับ

ไม่เคยแยกคับ แม้กระทั่งอินโดนีเซีย /ฟิลิปิน เพราะ Bmw เขาจะไม่ให้แก้ไขสเปคของเขา ถ้าใครแก้ไข คือไม่รับผิดชอบ

4. ดูรถ มาเลย์ หรือ โซน เอเซีย ยุโรป ไม่เห็นแยกออย์เกียร์ มีเหตุผลไหมครับ

รถก่อนปี 2000 แยกออยเกียร์ และ คูลลิ่งมาบังหม้อน้ำ / รถปี 2000 ขึ้นมา ใช้ความร้อนร่วมกันกับระบบหล่อเย็น และวาลย์น้ำ/การไหลเวียนปั๊มน้ำ /การแลกเปลี่ยนความร้อนของหม้อน้ำเป็นหลักคับ เป็นการพัฒนาระบบเพื่อให้ใช้งานได้ทุกสภาวะ แบบระบบปิดสมบูรณ์แบบ
 
5. ทำไมพี่สุเมธ ไปรับสินค้าออย์เกียร์ มาติดตั้งให้ลูกค้า ทั้งที่เป็นรายได้ครับ รวมถึงอู่ BMW อื่นๆ

ช่างที่เขารู้จักระบบดี จะไม่แก้ปัญหาปลายเหตุ เขาจะแก้ปัญหาต้นเหตุ รถยนต์ 1 คันไม่ได้พังอย่างเดียว ชิ้นส่วนอื่นๆๆก็มีอายุเหมือนกัน ในระบบหล่อเย็น และสินค้าที่มา มันก็ราคาไม่ถูก และ ต้องทำการดัดแปลง แต่ไม่ขาด เช่น " เมื่อไหร่ที่ออยเกียร์แตก แม้จะแยกออยเกียร์แล้ว แต่ก็ต้องซื้อออยเกียร์ใหม่มาใส่แทน ไม่งั้นน้ำจะหายจากระบบ เพราะ ออยเกียร์ติดอยู่กับระบบน้ำ ปิดระบบน้ำอยู่ " แล้วเราจะเสียเงินแยกออยเกียร์ทำไม ในเมื่อเสียเงินแยกออยเกียร์แล้ว พอ ออยเกียร์แตกก็ต้องซื้อออยเกียร์ใหม่มาอุดระบบน้ำอีก เท่ากับ เสียเงิน 2 ต่อ แล้วยังไม่ได้แก้ต้นเหตุที่ทำให้ออยเกียร์หรือระบบหล่อเย็นตัวอื่นๆๆแตกเลยคับ

6. ศูนย์ ทำไมไม่รับรถที่แยกออย์เกียร์ ทั้งที่ดัดแปลงนิดเดียว

มันต้องดัดแปลงมากคับ
1.ท่อเดินไปต่อกับออยเกียร์ใหม่
2. แผ่นสามเหลื่อมที่ยึดหม้อน้ำและต่อกับออยเกียร์ ต้องทำอุปกรณ์มาต่อให้น้ำวน ถ้าไปอุดระบบน้ำจะตันทันที
3.ต้องทำที่ยึดออยเกียร์ใหม่ ไม่ให้บังหม้อน้ำ
4.ถ้าเป็นช่วงที่หนาวจนเป็นหิมะ และน้ำมันเกียร์จะทำงานอย่างไร
5.บีเอ็มยึดหลังระบบปิดใช้ได้ทุกสภาวะอากาศ " ระบบปิด ใช้ได้ทุกสภาวะอากาศ "

อันนี้พี่สุเมธคงตอบผิด ความหมายที่ถามคือ ศูนย์บริการ จะไม่รับรถที่ดัดแปลง เข้ามาใช้บริการ


----------------------------------------------------------------------

ดังนั้นใคร จะแยกออย์เกียร์ หรือ ไม่แยก ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล และ เป็นเรื่องทรัพย์สินของท่าน :-*

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 17, 2013, 23:22:27 โดย Krisada511™ »
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Awirut

  • klass 71 ไม่ใหญ่ แต่ไม่เคยกลัวใคร
  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 10231
  • ตอนนี้มีปัญญาหาได้แค่นี้ E46-323,E90-320,X1,X3
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ด้วยความสงสัยในเรื่องการแยกออย์เกียร์ ใน N42- N46  จำเป็นหรือไม่

จึงเขียนคำถามไปขอความรู้จากพี่สุเมธ  ก็ได้รับคำตอบและคำแนะนำมาดังนี้


1.BMW รุ่นใหม่ๆ ทำไม ไม่แยกออย์เกียร
มันเป็นสากลของรถยุโรป ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ทุกสภาพอากาศ เช่น ร้อน / หนาว /หิมะ / ชื้น สามารถใช้งานได้ทุกสภาวะ เนื่องการออกแบบให้สมบูรณ์ของฝ่ายออกแบบ และฝ่านทดสอบ และแก้ไขมาแล้วอย่างดี (ไม่มีรถใหม่ๆๆคันไหน ออยเกียร์แตก เนื่องจากระบบหล่อเย็นทำงานได้สมบูรณ์ )


2. ประเทศร้อนแถมทะเลทราย ซาอุ ฯลฯ เขาแยกออย์เกียร์ หรือไม่ครับ หรือ แค่เปลี่ยนวาล์วน้ำจาก 110 เป็น 95 องศา


ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร ในอเมริกา ก็มีทะเลทราย ความร้อนก็พอๆ กัน เครื่องยนต์จะทำงานได้ดีคืออุณหภูมิ ที่กำหนดนี้คับ การจุดระเบิดถึงจะสมบูรณ์
ที่ๆๆต้องเปลี่ยนทุกประเทศ คือ น้ำมันเครื่อง แต่ละประเทศอุณหภูมิจะต่างกัน การเลือกใช้น้ำมันเครื่องนั่นล่ะถูกต้องคับ แต่การแยกออยเกียร์ที่เป็นระบบปิด มาทำให้เป็นระบบเปิด ผิดวิธีคับ และเสียเงินซ้ำซ้อน
 

3. เครื่องเก่าจาก Japan หรือ HK เคยเจอแยก ออย์เกียร์มาไหมครับ

ไม่เคยแยกคับ แม้กระทั่งอินโดนีเซีย /ฟิลิปิน เพราะ Bmw เขาจะไม่ให้แก้ไขสเปคของเขา ถ้าใครแก้ไข คือไม่รับผิดชอบ

4. ดูรถ มาเลย์ หรือ โซน เอเซีย ยุโรป ไม่เห็นแยกออย์เกียร์ มีเหตุผลไหมครับ

รถก่อนปี 2000 แยกออยเกียร์ และ คูลลิ่งมาบังหม้อน้ำ / รถปี 2000 ขึ้นมา ใช้ความร้อนร่วมกันกับระบบหล่อเย็น และวาลย์น้ำ/การไหลเวียนปั๊มน้ำ /การแลกเปลี่ยนความร้อนของหม้อน้ำเป็นกลัดคับ เป็นการพัฒนาระบบเพื่อให้ใช้งานได้ทุกสภาวะ แบบระบบปิดสมบูรณ์แบบ
 
5. ทำไมพี่สุเมธ ไปรับสินค้าออย์เกียร์ มาติดตั้งให้ลูกค้า ทั้งที่เป็นรายได้ครับ รวมถึงอู่ BMW อื่นๆ

ช่างที่เขารู้จักระบบดี จะไม่แก้ปัญหาปลายเหตุ เขาจะแก้ปัญหาต้นเหตุ รถยนต์ 1 คันไม่ได้พังอย่างเดียว ชิ้นส่วนอื่นๆๆก็มีอายุเหมือนกัน ในระบบหล่อเย็น และสินค้าที่มา มันก็ราคาไม่ถูก และ ต้องทำการดัดแปลง แต่ไม่ขาด เช่น " เมื่อไหร่ที่ออยเกียร์แตก แม้จะแยกออยเกียร์แล้ว แต่ก็ต้องซื้อออยเกียร์ใหม่มาใส่แทน ไม่งั้นน้ำจะหายจากระบบ เพราะ ออยเกียร์ติดอยู่กับระบบน้ำ ปิดระบบน้ำอยู่ " แล้วเราจะเสียเงินแยกออยเกียร์ทำไม ในเมื่อเสียเงินแยกออยเกียร์แล้ว พอ ออยเกียร์แตกก็ต้องซื้อออยเกียร์ใหม่มาอุดระบบน้ำอีก เท่ากับ เสียเงิน 2 ต่อ แล้วยังไม่ได้แก้ต้นเหตุที่ทำให้ออยเกียร์หรือระบบหล่อเย็นตัวอื่นๆๆแตกเลยคับ

6. ศูนย์ ทำไมไม่รับรถที่แยกออย์เกียร์ ทั้งที่ดัดแปลงนิดเดียว

มันต้องดัดแปลงมากคับ
1.ท่อเดินไปต่อกับออยเกียร์ใหม่
2. แผ่นสามเหลื่อมที่ยึดหม้อน้ำและต่อกับออยเกียร์ ต้องทำอุปกรณ์มาต่อให้น้ำวน ถ้าไปอุดระบบน้ำจะตันทันที
3.ต้องทำที่ยึดออยเกียร์ใหม่ ไม่ให้บังหม้อน้ำ
4.ถ้าเป็นช่วงที่หนาวจนเป็นหิมะ และน้ำมันเกียร์จะทำงานอย่างไร
5.บีเอ็มยึดหลังระบบปิดใช้ได้ทุกสภาวะอากาศ " ระบบปิด ใช้ได้ทุกสภาวะอากาศ "

อันนี้พี่สุเมธคงตอบผิด ความหมายที่ถามคือ ศูนย์บริการ จะไม่รับรถที่ดัดแปลง เข้ามาใช้บริการ


----------------------------------------------------------------------

ดังนั้นใคร จะแยกออย์เกียร์ หรือ ไม่แยก ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล และ เป็นเรื่องทรัพย์สินของท่าน  :-*

ผมว่าผมก็หยุดแดกดันมาสักพักแล้ว แถมก็ไม่ได้ไปเก้าก่ายอะไรพี่แล้วนะ สงสัยพี่นั้นแหละที่ทำตัวเหมือนเด็ก ที่จ่องจะเอาชนะ ส่วนผมก็อุส่าบอกแม้ในกระทู้ของผมว่าใครจะทำหรือไม่ทำก็แล้วแต่ ให้ไปคิดกันเอง เอ่ๆๆๆๆๆๆๆแต่ทำไมกระทู้นี้ก็รายๆละเอียดเพียบ แต่ทำไมยังมีคนโทรหาผมไม่หยุดเลยว่าจะให้ช่วยดูรถให้ ทั้งๆเขาก็อ่านกระทู้นี้นะ แต่เห็นราคาซ่อมแล้วที่บอกว่าใช้งบ 120,000+ ในการซ่อม เขาคนนั้นยังบอกว่าบ้าไปแล้ว ซ่อมขนาดนั้นขายรถยังน่าจะคุ้มกว่าเลย เพราะตอนนี้ 318 ราคาเริ่มต้นเพึ่งจะ 300,000 ปลายๆเองถ้าขาย ใยจะต้องมาซ่อมเพื่อให้ราคารถหายไปครึ่งนึง

ส่วนออยที่แยก แล้วออยเก่าถ้ามันแตกอีก จะเปลี่ยนทำไมครับ งง ครับ เอาอะไรคิดว่ามันต้องเปลี่ยน (แตกก็ชั่งมันสิครับ ก็แค่นำ้เข้าไปอยู่ในออยที่ไม่ได้ใช้ ก็แค่นั้น จะไปเปลี่ยนทำไมให้เสียเงิน เพราะท่อออยผมก็อุดให้ นำ้มันจะออกไปทางไหนเหรอ :)) )

แล้วบอกว่าแยกออยแล้ว 0 ไม่รับทำ ถามหน่อยเถอะครับ คนที่มาแยกมีท่านใดบ้างเขายังทำที่ 0 อยู่นะ เขาไม่ โง เสียเงินเยอะๆเหมือนใครบางคนนะครับ

อีกอย่างที่บอกว่าอู่ที่ซ่อมทำไมไม่เอาออยเกียร์มาติดให้ลูกค้า ถ้าผมเป็นอู่ผมก็ไม่เอามาขายหรือติดตั้งให้หลอกครับ ใครจะโงเสียรายได้ที่จะได้จากออยแตกละ ;D ;D ;D อู่ไหนเอามาก็โงแล้วครับ

แค่นี้แล้วกันไม่อยากให้ web พัง เอาเป็นว่าอย่ามาโพสแดกผมอีกก็แล้วกัน ช่วยนะช่วยให้จริงครับ ไม่ใช่ซำ้เติมให้เขาไปเสียตังค์ตามคุณสิครับ คิดบ้างคนตังค์น้อยเขาจะมีปัญญาทำเปล่าวที่คุณโพสแนะนำไปนะ >:(
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 13, 2013, 18:25:48 โดย Awirut »

I Love e46 323 I  >!<. 
ใครมีปัญหาเรื่องรถ สามารถโทรปรึกษาได้ครับ 082-365-6523 รุทธ์. หรือ แอดlineมาที่rut467

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
สำหรับสมาชิกที่ใช้เครื่อง N42-N46 จะนำเสนอเรื่องการดูแลอื่นๆ ตามที่แจ้งไว้เป็นลำดับเมื่อ 3 วันก่อน
นะครับ ยังมีอีกหลากหลายเรื่อง ในการบำรุงรักษา รถที่ท่านรัก  :-*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 13, 2013, 20:56:02 โดย Krisada511™ »
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Angel_dimple

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 336
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ด้วยความสงสัยในเรื่องการแยกออย์เกียร์ ใน N42- N46  จำเป็นหรือไม่



ผมว่าผมก็หยุดแดกดันมาสักพักแล้ว แถมก็ไม่ได้ไปเก้าก่ายอะไรพี่แล้วนะ สงสัยพี่นั้นแหละที่ทำตัวเหมือนเด็ก ที่จ่องจะเอาชนะ ส่วนผมก็อุส่าบอกแม้ในกระทู้ของผมว่าใครจะทำหรือไม่ทำก็แล้วแต่ ให้ไปคิดกันเอง เอ่ๆๆๆๆๆๆๆแต่ทำไมกระทู้นี้ก็รายๆละเอียดเพียบ แต่ทำไมยังมีคนโทรหาผมไม่หยุดเลยว่าจะให้ช่วยดูรถให้ ทั้งๆเขาก็อ่านกระทู้นี้นะ แต่เห็นราคาซ่อมแล้วที่บอกว่าใช้งบ 120,000+ ในการซ่อม เขาคนนั้นยังบอกว่าบ้าไปแล้ว ซ่อมขนาดนั้นขายรถยังน่าจะคุ้มกว่าเลย เพราะตอนนี้ 318 ราคาเริ่มต้นเพึ่งจะ 300,000 ปลายๆเองถ้าขาย ใยจะต้องมาซ่อมเพื่อให้ราคารถหายไปครึ่งนึง

ส่วนออยที่แยก แล้วออยเก่าถ้ามันแตกอีก จะเปลี่ยนทำไมครับ งง ครับ เอาอะไรคิดว่ามันต้องเปลี่ยน (แตกก็ชั่งมันสิครับ ก็แค่นำ้เข้าไปอยู่ในออยที่ไม่ได้ใช้ ก็แค่นั้น จะไปเปลี่ยนทำไมให้เสียเงิน เพราะท่อออยผมก็อุดให้ นำ้มันจะออกไปทางไหนเหรอ :)) )

แล้วบอกว่าแยกออยแล้ว 0 ไม่รับทำ ถามหน่อยเถอะครับ คนที่มาแยกมีท่านใดบ้างเขายังทำที่ 0 อยู่นะ เขาไม่ โง เสียเงินเยอะๆเหมือนใครบางคนนะครับ

อีกอย่างที่บอกว่าอู่ที่ซ่อมทำไมไม่เอาออยเกียร์มาติดให้ลูกค้า ถ้าผมเป็นอู่ผมก็ไม่เอามาขายหรือติดตั้งให้หลอกครับ ใครจะโงเสียรายได้ที่จะได้จากออยแตกละ ;D ;D ;D อู่ไหนเอามาก็โงแล้วครับ

แค่นี้แล้วกันไม่อยากให้ web พัง เอาเป็นว่าอย่ามาโพสแดกผมอีกก็แล้วกัน ช่วยนะช่วยให้จริงครับ ไม่ใช่ซำ้เติมให้เขาไปเสียตังค์ตามคุณสิครับ คิดบ้างคนตังค์น้อยเขาจะมีปัญญาทำเปล่าวที่คุณโพสแนะนำไปนะ >:(

อย่าทะเลาะกันเลยครับ ทั้ง 2 ท่านได้ให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์กับสมาชิกมาโดยตลอดครับ คิดซะว่าคนอ่านก็ต้องใช้วิจารณญาณเองครับ ข้อมูลหลากหลายความเห็นก็ยิ่งดีครับ  O:-)

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
N42-N46 เรื่อง แคตตาไลติค คอนเวอร์เตอร์ (Catalytic Converter)  ตัน

เนื่องจากอายุที่ใช้งานของ แคตฯ จะมีอายุเฉลี่ย ที่ 1.5 แสนกิโล
อาการที่เกิดขึ้นคือ อัตราเร่งลดลง กินน้ำมันเพิ่มขึ้น

ทำให้ควรเปลี่ยน ( ไม่แนะนำให้ตัดทิ้ง )

ทางเลือก มี 4 ทาง

1. ทะลวงใส่ใส้ตรง อันนี้เหมือนหลอกที่ตรวจสภาพ เท่านั้น ไม่ได้ประโยชน์อะไร เหมือนตัดทิ้ง
2. ซื้อ แคตฯ มือ 2 สภาพดี จากหัวตัด Japan เลขไมล์น้อย เช่น 5-6 หมื่นกิโล
    ราคา 3-4 พัน จะได้ใช้ไปอีก 1 แสนกิโล
3. เบิกใหม่ที่ศูนย์ ราคาพอๆ ซื้อมอเตอร์ไซค์คัน 3-4 หมื่น / คงไม่มีใครเบิกศูนย์แน่
4. เปลี่ยนมาใช้ Hi Flow Cat ราคารับได้
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
แคตตาไลติค คอนเวอร์เตอร์ (Catalytic Converter)  คืออะไร





เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ คุณคิดบ้างหรือเปล่าว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากการกระทำด้วยน้ำมือของคุณเองหรือคนใกล้ตัว ยกตัวอย่างง่ายๆ เรื่องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและรถยนต์เป็นอีกสิ่งที่มนุษย์เราสร้างขึ้น และมีใช้กันอย่างมากมายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวหรือรถยนต์สาธารณะก็ตาม บางคนไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ากำลังทำให้เกิดมลภาวะ

                มลภาวะที่เกิดจากรถยนต์นั้นมีผลสำรวจแล้วว่า มีอัตราการปล่อยสารพิษเข้าสู่อากาศมากเป็นอันดับหนึ่ง และรองลงมาเป็นสารพิษที่ออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยเหตุผลนี้ทางค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น และได้คิดค้นหาวิธีการเพื่อที่จะลดปริมาณสารพิษเหล่านี้ให้น้อยลงภายใต้การควบคุมดูแลขององค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

                แก๊สไอเสียที่ออกจากรถยนต์ นับเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่มีปริมาณมากที่สุด โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ที่มีการจราจรหนาแน่น โดยแก๊สไอเสียมลพิษก็ได้แก่ คาร์บอนมอน็อกไซด์ (CO)เป็นแก๊สที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากมีอ๊อกซิเจนไม่เพียงพอขณะเกิดการเผาไหม้ แก๊สชนิดนี้เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตมากเพราะมันจะถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด ทำให้เลือดขาดอ๊อกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ถ้าสูดดมเข้าไปมากๆ จะทำให้สมองและระบบประสาทถูกทำลาย และอาจเสียชีวิตได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
 ต่อมาคือ ไฮโดรคาร์บอนหรือ HC เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ จะปนออกมากับแก๊สไอเสีย ไฮโดนคาร์บอนบางชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง ทำให้ระคายเคืองต่อจมูก ตา หลอดลม และปอดทำให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ

                ตัวร้ายอีกตัวหนึ่งคือ ไนโตรเจนอ๊อกไซด์ (NOx) เกิดจากไนโตรเจนทำปฏิกิริยากับอ็อกซิเจนที่อุณหูมิเผาไหม้สูงกว่า 1,800 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจและยังทำให้เกิดฝนกรด

                เมื่อทั่วโลกได้ประจักษ์กันเป็นอย่างดีว่าแก๊สไอเสียทั้ง 3 ชนิดนี้เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต จึงจำเป็นต้องหามาตรการมาควบคุม ในปี ค.ศ. 1960 รัฐแคริฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรกของโลกที่ได้ออกกฎหมายควบคุมแก๊สไอเสียอย่างเข้มงวดกวดขัน และในปี ค.ศ. 1995 ได้บังคับให้รถยนต์ที่ผลิตจากสหรัฐอเมริกาและรถนำเข้าทุกคันต้องผ่านการทดสอบและจากนั้นอีกไม่นานในยุโรปและญี่ปุ่นได้มีกฎหมายออกมามบังคับใช้เช่นกัน โดยใช้ตามมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา ดังนั้นผู้ผลิตรถยนต์จึงได้คิดค้นประดิษฐ์อุปกรณ์ที่สามารถช่วยลดมลภาวะที่เรียกกันว่า “แคตตาไลติคคอนเวอร์เตอร์” (Catalytic Converter)ขึ้นมาใช้
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
ซึ่งในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน ไม่ว่าส่วนผสมหนา ส่วนผสมผิดปกติ (ส่วนผสมทางทฤษฎี) หรือส่วนผสมบาง จะมีแก๊สไอเสียออกมาทั้งสิ้น ทำอย่างไรจึงจะทำให้แก๊สไอเสียที่ออกมามีมลพิษน้อยลง จึงจำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์ที่เรียกกันว่า “แคตตาไลติคคอนเวอร์เตอร์” (Catalytic Converter) หรือเครื่องปรับสภาพแก๊สไอเสียเข้าไปในรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่กำจัดแก๊สไอเสีย (CO, HC และ NOx) ให้กลายเป็นแก๊สที่สะอาด (CO2, N2 และ H2O) ซึ่งติดตั้งอยู่ระหว่างท่อร่วมไอเสียกับหม้อพักไอเสีย
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
โครงสร้างภายในของแคตตาไลติคคอนเวอร์เตอร์





            ภายในแคตตาไลติคคอนเวอร์เตอร์ หรือเรียกสั้นๆว่า CAT นี้มีสาร PGM (Platinum Group Metal) ซึ่งได้แก่ พลาตินั่ม (Platinum)พาลาเดียม (Palladium)โรเดียม (Rhodium)และรูทีเนียม (Ruthenium) สารใดสารหนึ่งหรืออาจใช้สาร 2 ชนิดผสมกันก็ได้ แต่ที่นิยมใช้กันมากคือ พลาตินั่มผสมกับโรเดียม สารเหล่านี้จะเคลือบเป็นชั้นบางๆ อยู่ภายในผนังของช่องภายในรังผึ้งที่ทำด้วยเซรามิค เมื่อแก๊สไอเสียไหลผ่านสารเหล่านี้จะทำปฏิกิริยาทางเคมีเปลี่ยนเป็นคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ไอน้ำ และไนโตรเจน
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/


แคตที่ใช้อยู่กับรถยนต์ในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นแบบ Three-way Catalytic ซึ่งมีระบบป้อนสัญญาณกลับ และใช้ร่วมกับตัวตรวจวัดอ๊อกซิเจน (Oxygen sensor) ซึ่งจะทำงานได้ดีที่สุดถ้าอุณหภูมิในตัวมันอยู่ระหว่าง 400-800 องศาเซลเซียสและอัตรส่วนผสมที่ใช้ในการเผาไหม้จะต้องใกล้เคียงกับอัตราส่วนผสมที่เหมาะสม (A/F Ratio คือที่ 14.7:1) มากที่สุด เพื่อที่จะรักษาให้ได้อัตราส่วนผสมนี้จึงจำเป็นต้องติดตั้งตัว Oxygen sensor (มีหลายชื่อเช่น Lambda Sensor บางค่ายรถก็เรียก Lambda Sond) ซึ่งก็คือ เซ็นเซอร์วัดปริมาณอ๊อกซิเจนที่ปะปนอยู่ในไอเสีย เพื่อทำหน้าที่ตรวจจับความหนาแน่นของอ๊อกซิเจน ซึ่งหลงเหลือจากการเผาไหม้นั้นเอง
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
4.Hi Flow Cat Magnaflow ที่ผมติดตั้งแทนแคทเดิมในรถ ( N42 )

รูปกล่องชัดๆ



เดี่ยวมาต่อ ไปทานข้าวก่อน  :-*
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
เรื่องการเปลี่ยน Hi Flow Cat Magnaflow

อ่านต่อที่นี้ได้เลยครับ

*** มาติดตั้ง  Hi Flow Cat Magnaflow ให้ N42 ***

ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

 อันนี้ก็เป็นอีกรายการ ในงบ 1.2 แสน ที่ทะยอยเปลี่ยน อะไหล่ สำคัญต่างๆ ในอายุใช้งานรถที่ครอบครองใน 2.5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอะไหล่ที่สมควรเปลี่ยนตามอายุ  อะไหล่ที่ไม่เสียผมก็จะเปลี่ยนก่อนเสีย
โดยพิจารณาจากอายุการใช้งาน เป็นหลักสำคัญ เนื่องจากผมรักรถคันนี้มาก และ ลักษณะการทำงานของผม
ต้องไม่ไปดับ หรือ เสียกลางทาง มีเรื่องสำคัญรออยู่ พลาดไม่ได้

ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

 ผมเองก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมายหรอก แต่ทำงานหนัก ใช้สมองหนัก และ ไม่ได้ทำงานแค่หน่วยงานเดียว  ในบางเดือนมางาน 4-5 หน่วยงาน ที่ต้องวิ่งไปดู ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั่วประเทศ  ในกรุงเทพฯ ถ้าผมจะไปเองก็ใช้ BM คันนี้เป็นหลัก ในบางครั้ง หลายวัน หลายคืน ที่ไปดูงาน ตี2 ตี3 รถผมเสียไม่ได้ เป็นความตั้งใจ ใส่ใจ ที่จะดูแลให้ใช้งานได้ดี เพราะรู้ว่าเราซื้อรถมือ 2 อายุ เข้า 10 ปีแล้ว แต่เมื่อเราทำครบ เวลาขับมันมีความสุขมากเมื่อรถมันเครื่องยนต์เดินเงียบ ระบบทุกอย่างดี  และ ไม่กังวลใดๆให้เสียงาน เสียการ

ยอดรวมการซ่อม 1.2 แสน จริงๆถ้าไม่เปลี่ยน แบบผม มันก็อาจจ่ายแค่ 1/2 เท่านั้น ไม่ได้สนับสนุนให้ท่านเสียเงินในกระเป๋าตาม ต้องขออภัยที่ทำให้ หลากหลายท่าน  เข้าใจผิด ตรงยอดค่าซ่อม ที่สูงมาก

ผมจะรวบรวมรายการซ่อม ให้ดูในกระทู้นี้ ในลำดับต่อไป และ ผมเองก็เป็นคนที่เคยซ่อมรถเอง สมัยวัยรุ่น
ประสพการณ์ รถมาหลายคัน นั้นพอมีแน่นอน สมัยนี้ ให้ลงไปก้มทำคงไม่ไหวแล้ว มีงานธุระกิจที่สำคัญกว่ารอให้ดำเนินการ ที่บวกลบคูณหารแล้ว ว่าควรเลือกทำสิ่งไหนก่อน


















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 15, 2013, 18:05:17 โดย Krisada511™ »
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Angel_dimple

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 336
ของผมอาการเดียวกันครับพี่ ด้วยภาระหน้าที่งานและอีกหลายๆอย่าง ผมไม่สามารถไปวิ่งหาอะไหล่ตามวัดโสมฯ หรือเซียงกงเองได้ ส่วนตัวก็ไม่รู้จักอู่ที่ยอมให้เราหิ้วอะไหล่เข้าไปซะด้วย ทำเองก็ไม่เป็น  O0

ก็ได้อาศัยความรู้จากเพื่อนๆในเว็บนี้แหละครับ ช่วยทำให้พิจารณาได้ว่าอะไรควรเปลี่ยนไม่ควรเปลี่ยน อาการแบบนี้น่าจะเสียที่อะไร ฯลฯ แต่ก็โชคดีอยู่อย่างว่าอู่ประจำผมไม่ค่อยมั่ว อาจมีบ้างเชียร์ให้เปลี่ยนตัวนั้นตัวนี้ รับได้  :-*

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
เอาภาพมาให้ชม วงจรระบบระบายความร้อน + พัดลม  รวมถึง การแบ่งจ่ายเข้าฮีทเตอร์ ใน 4-6 สูบ ที่เป็นตัว Mix อุณหภูมิ โดยใช้ความร้อน ผสมความเย็น
ที่เหมาะสม เมื่อทำการปรับ ถ้าระบบ ฮีทเตอร์ ในรถของท่านยังใช้ได้ ก็จะสามารถปรับเพิ่มลด อุณหภูมิได้ละเอียด
รถ ผมฮีทเตอร์ตัน ก็จะเย็นมากจนหนาว ตอนนี้ได้เปลี่ยน ฮีตเตอร์แล้ว อากาศเย็นสบายๆ

สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
การทำความสะอาด พัดลมดูดอากาศเข้า เซ็นเซอร์ กล่องควบคุมแอร์  จะรื้อทำความสะอาด หรือ เป่าด้วยลม ก็แล้วแต่นะครับ
พัดลมตัวนี้ นานๆ ไปก็สร้างเสียงกวนใจขณะหมุน ต้องพ่นน้ำมัน WD-40 ปราบ








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 14, 2013, 16:35:50 โดย Krisada511™ »
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/

รุ่นใหม่ รุ่นเก่า





อันนี้ภาพในรถผม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 14, 2013, 16:47:20 โดย Krisada511™ »
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
" 3 blue dots "    :-*






ถ้าปรับมา 3 blue dots ฮีทเตอร์จะไม่ทำงานดังนั้นไม่มีความร้อนมาลดความเย็น ( แอร์ระบบแปลกๆของวิศวะ BMW )




ไปอ่านในเวปต่างประเทศ ให้ปรับไว้กลางๆ 1-2 blue dots  เพื่อสามารถ Mix อากาศร้อนเย็น เป็นองศาที่ต้องการได้
รถผมเปิด  3 blue dots ตลอด ( ในต่างประเทศแจ้งจะไม่สามารถลดความเย็นได้ ถ้ากล่องควบคุมเป็นระบบ Auto )
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
e46 Wheel speed sensor cleaning / แก้ปัญหาไฟพิฆาต 3 ดวง




ล้อหน้า





ล้อหลัง



ถ้าเจอแบบนี้ก็เปลี่ยนได้เลย



การทำความสะอาด ก็ฉีดล้าง ขัด ด้วยน้ำยาทำความสะอาด CONTACT CLEANER แบบต่างๆ ตามเหมาะสม ที่หาได้





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 14, 2013, 17:10:06 โดย Krisada511™ »
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
เบรคกระทู้ด้วยรถ E46 สวยๆ สักคัน ( ชุดแต่ง M2  ใส่กระจกมองข้าง M3  O0   )



ล้อเดิมๆ ลายนี้ดูไปดูมาก็สวยดี  ;)






สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน