ผู้เขียน หัวข้อ: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์  (อ่าน 2646 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้


intania

  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 825
  • MT rules
ทำไมถึงคิดว่าไม่ไหวละครับ

Chalermpol1980

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 249
เจ้าของเท่านั้นที่ตอบได้

ผมอยู่ขอนแก่นล่าสุดขับ ขอนแก่น- ระนอง - ภูเก็ต - ตรัง - ขอนแก่น  สบายๆครับ รถพร้อม คนพร้อม

JBR1992

  • พ่อ แม่ คือพรหมของบุตร
  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 2009
  • คนไทย น้ำใจเกินร้อย
1. ตรวจสภาพเช็คความพร้อม  อะไรที่คิดว่าเป็นจุดเปราะบาง และถึงเวลา ก็เปลี่ยนใหม่.
2. ร่างกายพร้อม

รับรอง ถึงไหนถึงกัน ....ปีที่แล้ว ผมเอา N42  ลุย ออกจากบางสะพาน ประจวบ - กทม - เชียงใหม่ - เชียงราย - แม่ฮ่องสอน -  ปาย ขากลับ   วิ่งวนซ้าย  มาเส้น แม่ฮ่องสอน - ลำพูน - ลำปาง - กทม - บางสะพาน
ชิว ๆ ครับ
 ""ชูสองนิ้ว::   ""ชูสองนิ้ว:: 
ถึงสูงเยี่ยมเทียมฟ้า อย่าดูถูก
ครูเคยปลูกวิชา มาแต่หลัง
ศิษย์ไร้ครูอยู่ได้ ไม่จีรัง
อย่าโอหัง ลบหลู่ ครูอาจารย์

kosit_w

  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 3987
  • 323 / M52tu+LPG
ที่ผ่านมาหลายท่านที่ต้องสไลด์กลับก็มีอยู่ไม่กี่ปัญหาเองครับ ถ้าทำพวกนั้นจบก็ไม่น่าห่วงครับ

เช่น
1.ปั๊มติ๊กพัง (หาติดรถไปสแปร์ซักตัว)
2.กรองเบนซินตัน (เปลี่ยนซะก่อนเดินทางถ้ายังไม่เคยเปลี่ยน)
3.หม้อน้ำแตก,หม้อพักแตก (ถ้านานแล้วยังไม่เคยเปลี่ยนก็จัดการเปลี่ยนซะ) เช็คระบบน้ำให้เรียบร้อย
4.ออยล์เกียร์, ออยล์เครื่อง (จัดการตามระยะ ที่สมควรจะทำ)

ส่วนอาการอื่นๆ ถ้าหากเจอส่วนใหญ่ก็ขับกลับกันได้นะครับ

exponential

  • คนคุ้นเคย
  • ***
  • กระทู้: 37
ถ้ารถสมบูรณ์ ขึ้นดอยใหนๆ ก็ไม่มีปัญหาครับ

Aui-Eye

  • คนคุ้นเคย
  • ***
  • กระทู้: 74
ขอบคุนสำหรับทุกคำแนะนำมากๆคับ :-X :-X

ยิ้มบางแสน

  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 3836
รถไหว ว่าแต่คนไหวป่าวอุ๋ย อิอิ
ยิ้มไซต์เข็มจิ้มซิม (ข้าพิชิตมาแล้วทุกสำนัก)


Pongsakda T.

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 494
  • จริงใจ ไม่ร่ำรวย ไม่โกงใคร ไม่ขอใครกิน
       รถผม 318 m43tu  ไมล์ 39xxxx วิ่ง กทม-ดอยอ่างขาง-แม่อาย-เชียงราย-อุบล-กทม ชิลๆครับพี่ เช็คตามพี่ kosit ว่าหายห่วงครับ มีที่ตายเลยคือไดชาจเจ๊ง อุบล แค่นั้นครับ จากนั้นขับไกลกดเชคตลอดดด 555
Delivery Shop
086-8101600 เอก

pich

  • อยู่กับรถนี่มันมีความสุขแฮะ
  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 371
    • www.slotpad.com
ต้นเดือนเพิ่งเอาe36 คอมแพคขึ้นดอยอินทนนท์มา ลงมามีคนสนใจซื้อต่อเลย :หึหึ:
เดี๋ยวปลายปีจะเอาe46 ขึ้นไปเชียงรายมั่งครับ
ขอทำผลิตภัณฑ์..เพียงอย่างเดียว..ให้ดีที่สุด..แค่นั้นพอ...งานนี้ทำเพราะใจรักล้วนๆ line id:slotpad หรือ ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน และ ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

popdemonic

  • คนคุ้นเคย
  • ***
  • กระทู้: 133
อุปกรณ์ที่มักจะเสียแบบclassic กับรถเก่าที่เสียแล้วจะไปต่อไม่ได้  จะมีอยู่ไม่กี่ตัวครับ จากประสบกาณ์
1.ปั๊มติ๊ก
2.คอยล์จุดระเบิด

ผมว่ามีแค่นี้เอง ที่มันจะพัง แล้วไปต่อไม่ค่อยไหว หัวเทียน สมมติเสียจริงๆ ชักปลั๊กออกวิ่งประคองๆหาหัวเทียน
ยังพอหาได้ครับ อย่างอื่นพวก ยางอะไหล่มันติดรถอยู่แล้วผมไม่นับครับ ปกติถ้ารถเก่าออกตจว . ผมมักแนะนำให้โยน
คอยล์ไว้ลูก ปั๊มติ๊กไว้ตัว  เคเบิ้ลไทล์5-6อัน ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์ชุดเล็ก เทปพันสายไฟ อย่างอื่นผมว่าไม่ค่อยจำเป็น
ฟิวส์ขาด ก็ถอดจากระบบอื่นมาใช้ได้เช่น ฟิวส์ไฟหน้าขาด ก็ถอดฟิวส์กระจกมองข้างมายืมใช้ก่อนได้ ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา อันนี้ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำคัญคือต้องมีสติ อย่าลนเวลารถเสียครับ
นั่งทำใจสักพักนึกสเต็ป  1 2 3 แล้วค่อยๆแก้ปัญหาครับ ผมนี้เจอประจำ ขับๆไปสายเบรคแตกยังเคยเลยครับ เบรคหายเลย วิธีแก้
ง่ายๆ หาคีมล๊อค หนีบปลายสายล้อที่รั่วหรืออุดมันแล้ววิ่งแบบมีเบรค3 ล้อไปเรื่อยๆประคองออกจากป่าได้ครับ

kosit_w

  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 3987
  • 323 / M52tu+LPG
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
อุปกรณ์ที่มักจะเสียแบบclassic กับรถเก่าที่เสียแล้วจะไปต่อไม่ได้  จะมีอยู่ไม่กี่ตัวครับ จากประสบกาณ์
1.ปั๊มติ๊ก
2.คอยล์จุดระเบิด

ผมว่ามีแค่นี้เอง ที่มันจะพัง แล้วไปต่อไม่ค่อยไหว หัวเทียน สมมติเสียจริงๆ ชักปลั๊กออกวิ่งประคองๆหาหัวเทียน
ยังพอหาได้ครับ อย่างอื่นพวก ยางอะไหล่มันติดรถอยู่แล้วผมไม่นับครับ ปกติถ้ารถเก่าออกตจว . ผมมักแนะนำให้โยน
คอยล์ไว้ลูก ปั๊มติ๊กไว้ตัว  เคเบิ้ลไทล์5-6อัน ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์ชุดเล็ก เทปพันสายไฟ อย่างอื่นผมว่าไม่ค่อยจำเป็น
ฟิวส์ขาด ก็ถอดจากระบบอื่นมาใช้ได้เช่น ฟิวส์ไฟหน้าขาด ก็ถอดฟิวส์กระจกมองข้างมายืมใช้ก่อนได้ ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา อันนี้ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำคัญคือต้องมีสติ อย่าลนเวลารถเสียครับ
นั่งทำใจสักพักนึกสเต็ป  1 2 3 แล้วค่อยๆแก้ปัญหาครับ ผมนี้เจอประจำ ขับๆไปสายเบรคแตกยังเคยเลยครับ เบรคหายเลย วิธีแก้
ง่ายๆ หาคีมล๊อค หนีบปลายสายล้อที่รั่วหรืออุดมันแล้ววิ่งแบบมีเบรค3 ล้อไปเรื่อยๆประคองออกจากป่าได้ครับ

ที่พูดมาผมเห็นด้วยกับหลายๆอย่างนะครับ

แต่มีที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือ "ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา"

-คือถ้าท่อน้ำแตก เอาเทปพันสายไฟพันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัด อันนี้ผมว่าเอาไม่อยู่เพราะน้ำร้อนมากความดันสูงมาก (แต่ไม่เคยเจอท่อแตกเจอแต่หม้อพักแตก หม้อน้ำแตก หรือคอท่อขาด)
-หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป อันนี้ก็ไม่ใช่นะครับ หม้อน้ำร้อนมาก ไม่ใช่ถังน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้สบู่อุดกัน

อย่างอื่นพังยังพอทน แต่ระบบน้ำพังนี่อย่าล้อเล่นนะ พังทั้งเครื่องได้ซื้อเครื่องใหม่เอาจริงๆนะครับ

X-talize

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 795
เพิ่งกลับมาจากดอยช้าง ดอยแม่สลอง ตบท้ายด้วยดอยอ่างขางครับ 2300 กม. ถ้ารถสมบรูณ์ดี ไม่น่ามีปัญหาอะไร.  ""ชูสองนิ้ว::
เฉาก๊วย

exponential

  • คนคุ้นเคย
  • ***
  • กระทู้: 37
น้ำมันเบรคเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ?  ถ้าเกิน 2 ปีแล้วก็อย่าลืมถ่ายทิ้ง ใส่ของใหม่ก่อนเอาไปขึ้นเขานะครับ

โชคดี .... เที่ยวให้สนุกครับ  ""ชูสองนิ้ว::

popdemonic

  • คนคุ้นเคย
  • ***
  • กระทู้: 133
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
อุปกรณ์ที่มักจะเสียแบบclassic กับรถเก่าที่เสียแล้วจะไปต่อไม่ได้  จะมีอยู่ไม่กี่ตัวครับ จากประสบกาณ์
1.ปั๊มติ๊ก
2.คอยล์จุดระเบิด

ผมว่ามีแค่นี้เอง ที่มันจะพัง แล้วไปต่อไม่ค่อยไหว หัวเทียน สมมติเสียจริงๆ ชักปลั๊กออกวิ่งประคองๆหาหัวเทียน
ยังพอหาได้ครับ อย่างอื่นพวก ยางอะไหล่มันติดรถอยู่แล้วผมไม่นับครับ ปกติถ้ารถเก่าออกตจว . ผมมักแนะนำให้โยน
คอยล์ไว้ลูก ปั๊มติ๊กไว้ตัว  เคเบิ้ลไทล์5-6อัน ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์ชุดเล็ก เทปพันสายไฟ อย่างอื่นผมว่าไม่ค่อยจำเป็น
ฟิวส์ขาด ก็ถอดจากระบบอื่นมาใช้ได้เช่น ฟิวส์ไฟหน้าขาด ก็ถอดฟิวส์กระจกมองข้างมายืมใช้ก่อนได้ ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา อันนี้ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำคัญคือต้องมีสติ อย่าลนเวลารถเสียครับ
นั่งทำใจสักพักนึกสเต็ป  1 2 3 แล้วค่อยๆแก้ปัญหาครับ ผมนี้เจอประจำ ขับๆไปสายเบรคแตกยังเคยเลยครับ เบรคหายเลย วิธีแก้
ง่ายๆ หาคีมล๊อค หนีบปลายสายล้อที่รั่วหรืออุดมันแล้ววิ่งแบบมีเบรค3 ล้อไปเรื่อยๆประคองออกจากป่าได้ครับ

ที่พูดมาผมเห็นด้วยกับหลายๆอย่างนะครับ

แต่มีที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือ "ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา"

-คือถ้าท่อน้ำแตก เอาเทปพันสายไฟพันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัด อันนี้ผมว่าเอาไม่อยู่เพราะน้ำร้อนมากความดันสูงมาก (แต่ไม่เคยเจอท่อแตกเจอแต่หม้อพักแตก หม้อน้ำแตก หรือคอท่อขาด)
-หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป อันนี้ก็ไม่ใช่นะครับ หม้อน้ำร้อนมาก ไม่ใช่ถังน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้สบู่อุดกัน

อย่างอื่นพังยังพอทน แต่ระบบน้ำพังนี่อย่าล้อเล่นนะ พังทั้งเครื่องได้ซื้อเครื่องใหม่เอาจริงๆนะครับ

เป็นวิธีประคองรถไปเรื่อยๆครับ พวกนี้มันช่วยในภาวะฉุกเฉินครับ ให้ประคองไปได้ แรงดันในระบบน้ำประมาณ1บาร์นิดๆครับ เกินจากนั้น relief valve ตรงฝาถังจะระบายออกครับ แรงดันบาร์กว่าๆ เทปพันสายไฟเอาอยู่สบายๆครับ โดยมากจะใช้กับรอยปริแตกของท่อยาง พันไว้ซ้อนกันหลายๆทบ มันจะเอาอยู่ สมมติว่ามันปริแตกรั่วๆเลย อย่างเลวร้ายมันจะรั่วออกแค่หยดๆซึมๆครับ  สมัยก่อนบางทีหาของไม่ได้ยางในจักรยานพันรอบแล้วเอาเชือกมัดไว้ครับเวลาเราขับรถ รถเคลื่อนตัวแรงประทะมันตีหน้าหม้อน้ำ แรงดันมันจะน้อยกว่าเวลาเราขับมาร้อนๆแล้วจอดครับ ความร้อนสะสมมันสูง
ส่วนสบู่ มันเป็นไขครับ ลองเสิร์ชดูครับเป็นวิธีแก้ปัญหาหม้อน้ำรั่วกลางทางได้ครับ พวกนี้จะแก้ปัญหาพวกแผงรังผึ้งเป็นตามด ยกตัวอย่างเช่น
หม้อน้ำเก่าผุเป็นสนิม หรือวิ่งๆแล้วบังเอิญโดนหินดีดใส่ ผ่านแผงคอยล์ร้อน(condenser) เข้ามาที่รังผึ้งของหม้อน้ำครับ ที่ว่ามาคือเป็นการประคองรถในกรณีที่มันฉุกเฉนๆจริงๆเช่นไปอยู่กลางป่ากลางดง แบบนี้อันตรายครับ พวกนี้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ใช้กันมาหลาย10ปีแล้วครับ ก็เอาตัวรอดกันมาได้ครับ ใครจะเชื่อว่าแม้กระทั่งผ้าก๊อชพันแผลยังซ่อมรถได้เลยครับเรื่องจริง พวกรถเทอร์โบบางทีท่ออากาศปริแตกกลางทาง ไม่รู้จะทำยังไง แวะหาซื้อซิลิโคนอเนกประสงค์ เอาผ้าก๊อซพันแล้วซิลิโคนโปะ ด้วยตัวซิลิโคนมีความยืดหยุ่นสูง ส่วนผ้าก๊อซเองมีใยถี่ๆๆ เหมือนเป็นโครงreinforced ไปในตัวและให้ซิลิโคนมันจับอยู่ รอพอมันแห้งก็ขับไปต่อได้แล้วครับ พวกนี้มันเกิดจากความบังเอิญ บวกกับเหตุการณ์คับขัน มันต้องหาอะไรใกล้มือ
ขัดตาทัพไปก่อนครับ  หรืออย่างที่บอกครับบางทีเบรคแตก สายอ่อนเบรคขาด ไม่มีคีมล๊อคหาสกรู หรือตะปูอุดปลายท่อที่แตก แล้วใช้เข็มขัดรัดท่อ,เคเบิ้ลไทร์หลายๆเส้นรัดที่ปลายก็เอาอยู่ครับ

tukka

  • คนคุ้นเคย
  • ***
  • กระทู้: 29
คำแนะนำของคุณในทุกๆข้อผมเคยเห็นพี่ผมทำและแก้ไขรถในเวลาฉุกเฉินมาแล้ว มันใช้ได้จริงๆ(ประสบการณ์เท่านั้นที่จะทำเรื่องพวกนี้ได้)  :-X :-X :-X :-X

Oak800

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 108

smcn333

  • SMCN333
  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 180
  • what ever works
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
อุปกรณ์ที่มักจะเสียแบบclassic กับรถเก่าที่เสียแล้วจะไปต่อไม่ได้  จะมีอยู่ไม่กี่ตัวครับ จากประสบกาณ์
1.ปั๊มติ๊ก
2.คอยล์จุดระเบิด

ผมว่ามีแค่นี้เอง ที่มันจะพัง แล้วไปต่อไม่ค่อยไหว หัวเทียน สมมติเสียจริงๆ ชักปลั๊กออกวิ่งประคองๆหาหัวเทียน
ยังพอหาได้ครับ อย่างอื่นพวก ยางอะไหล่มันติดรถอยู่แล้วผมไม่นับครับ ปกติถ้ารถเก่าออกตจว . ผมมักแนะนำให้โยน
คอยล์ไว้ลูก ปั๊มติ๊กไว้ตัว  เคเบิ้ลไทล์5-6อัน ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์ชุดเล็ก เทปพันสายไฟ อย่างอื่นผมว่าไม่ค่อยจำเป็น
ฟิวส์ขาด ก็ถอดจากระบบอื่นมาใช้ได้เช่น ฟิวส์ไฟหน้าขาด ก็ถอดฟิวส์กระจกมองข้างมายืมใช้ก่อนได้ ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา อันนี้ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำคัญคือต้องมีสติ อย่าลนเวลารถเสียครับ
นั่งทำใจสักพักนึกสเต็ป  1 2 3 แล้วค่อยๆแก้ปัญหาครับ ผมนี้เจอประจำ ขับๆไปสายเบรคแตกยังเคยเลยครับ เบรคหายเลย วิธีแก้
ง่ายๆ หาคีมล๊อค หนีบปลายสายล้อที่รั่วหรืออุดมันแล้ววิ่งแบบมีเบรค3 ล้อไปเรื่อยๆประคองออกจากป่าได้ครับ

ที่พูดมาผมเห็นด้วยกับหลายๆอย่างนะครับ

แต่มีที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือ "ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา"

-คือถ้าท่อน้ำแตก เอาเทปพันสายไฟพันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัด อันนี้ผมว่าเอาไม่อยู่เพราะน้ำร้อนมากความดันสูงมาก (แต่ไม่เคยเจอท่อแตกเจอแต่หม้อพักแตก หม้อน้ำแตก หรือคอท่อขาด)
-หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป อันนี้ก็ไม่ใช่นะครับ หม้อน้ำร้อนมาก ไม่ใช่ถังน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้สบู่อุดกัน

อย่างอื่นพังยังพอทน แต่ระบบน้ำพังนี่อย่าล้อเล่นนะ พังทั้งเครื่องได้ซื้อเครื่องใหม่เอาจริงๆนะครับ

เป็นวิธีประคองรถไปเรื่อยๆครับ พวกนี้มันช่วยในภาวะฉุกเฉินครับ ให้ประคองไปได้ แรงดันในระบบน้ำประมาณ1บาร์นิดๆครับ เกินจากนั้น relief valve ตรงฝาถังจะระบายออกครับ แรงดันบาร์กว่าๆ เทปพันสายไฟเอาอยู่สบายๆครับ โดยมากจะใช้กับรอยปริแตกของท่อยาง พันไว้ซ้อนกันหลายๆทบ มันจะเอาอยู่ สมมติว่ามันปริแตกรั่วๆเลย อย่างเลวร้ายมันจะรั่วออกแค่หยดๆซึมๆครับ  สมัยก่อนบางทีหาของไม่ได้ยางในจักรยานพันรอบแล้วเอาเชือกมัดไว้ครับเวลาเราขับรถ รถเคลื่อนตัวแรงประทะมันตีหน้าหม้อน้ำ แรงดันมันจะน้อยกว่าเวลาเราขับมาร้อนๆแล้วจอดครับ ความร้อนสะสมมันสูง
ส่วนสบู่ มันเป็นไขครับ ลองเสิร์ชดูครับเป็นวิธีแก้ปัญหาหม้อน้ำรั่วกลางทางได้ครับ พวกนี้จะแก้ปัญหาพวกแผงรังผึ้งเป็นตามด ยกตัวอย่างเช่น
หม้อน้ำเก่าผุเป็นสนิม หรือวิ่งๆแล้วบังเอิญโดนหินดีดใส่ ผ่านแผงคอยล์ร้อน(condenser) เข้ามาที่รังผึ้งของหม้อน้ำครับ ที่ว่ามาคือเป็นการประคองรถในกรณีที่มันฉุกเฉนๆจริงๆเช่นไปอยู่กลางป่ากลางดง แบบนี้อันตรายครับ พวกนี้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ใช้กันมาหลาย10ปีแล้วครับ ก็เอาตัวรอดกันมาได้ครับ ใครจะเชื่อว่าแม้กระทั่งผ้าก๊อชพันแผลยังซ่อมรถได้เลยครับเรื่องจริง พวกรถเทอร์โบบางทีท่ออากาศปริแตกกลางทาง ไม่รู้จะทำยังไง แวะหาซื้อซิลิโคนอเนกประสงค์ เอาผ้าก๊อซพันแล้วซิลิโคนโปะ ด้วยตัวซิลิโคนมีความยืดหยุ่นสูง ส่วนผ้าก๊อซเองมีใยถี่ๆๆ เหมือนเป็นโครงreinforced ไปในตัวและให้ซิลิโคนมันจับอยู่ รอพอมันแห้งก็ขับไปต่อได้แล้วครับ พวกนี้มันเกิดจากความบังเอิญ บวกกับเหตุการณ์คับขัน มันต้องหาอะไรใกล้มือ
ขัดตาทัพไปก่อนครับ  หรืออย่างที่บอกครับบางทีเบรคแตก สายอ่อนเบรคขาด ไม่มีคีมล๊อคหาสกรู หรือตะปูอุดปลายท่อที่แตก แล้วใช้เข็มขัดรัดท่อ,เคเบิ้ลไทร์หลายๆเส้นรัดที่ปลายก็เอาอยู่ครับ

ชอบมากครับคุณป๊อป ขอคาราวะ  :-X

tom46

  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 17009
  • M52TUB30 SCHRICK CAM
สรุปเจ้าของกระทู้ ไปแล้วกลับมาปกติดีไหมครับ ช่วยรายงานผลต่อให้ด้วยครับ


M52TUB24 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

Aui-Eye

  • คนคุ้นเคย
  • ***
  • กระทู้: 74
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
สรุปเจ้าของกระทู้ ไปแล้วกลับมาปกติดีไหมครับ ช่วยรายงานผลต่อให้ด้วยครับ
ลืมไปเรยนะคับ สรุปผ่านฉลุยคับ ขึ้นไปถึงยอดดอยสบายๆเรยคับ แล้วก้ต่อด้วยเขาค้อ ทริปนี้ 2000 กิโล สบายๆเรยครับ^^

tom46

  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 17009
  • M52TUB30 SCHRICK CAM


M52TUB24 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

pu_2times

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 37