ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
รถยี่ห้อ bmw เท่าที่ผมจำได้ผมเคยเห็นตอนสมัยประถมรุ่น นกแก้ว แต่ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่ามันเป็นรุ่นอะไรเพราะตอนนั้นผมเห็นน้าขับมาที่บ้าน(น้าผมซื้อมือสองมาในราคาสมัยนั้นประมาณ 8-9แสนบาท)ด้วยความเป็นเด็กก็เลยไม่ได้คิดอะไร(เด็กต่างจังหวัด) พอช่วงผมได้มาเรียนต่อที่ม.รามคำแหงที่กรุงเทพ(ตอนนี้ผมอยู่ปี4ครับ) ก็เริ่มเห็นรถหลายยี่ห้อมากทั้ง 4 ประตู คูเป้ สปอร์ต แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมความรู้สึกข้างในมันบอกว่าต้อง bmw ผมจึงกลายเป็นคนชอบเรื่องเกี่ยวกับยานยนต์ เทคโนโลยีว่าตอนนี้ได้พัฒนาไปถึงไหนแล้ว เมื่อมีงาน มอเตอร์เอ็กโปร์หรืองานมอเตอร์โชว์ผมก็จะไปตลอดโดยเฉพาะบูท bmw พอได้ลองไปนั่งดู(ตอนนั้นe90)มันรู้สึกว่าใช่เลยว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องได้มันมาร่วมชีวิตด้วย แต่ด้วยว่าผมยังเรียนอยู่และฐานะทางบ้านก็ไม่ถึงกับมีตังค์ซักเท่าไหร่ก็ฝันไปก่อนเพราะผมคิดในใจว่าถ้าเรียนจบผมจะทำงานพยายามเก็บเงินซื้อมาให้ได้ เมื่อผมรู้ว่าใจมันรักbmw ผมก็เข้ามาดูในเวปone2carตลอดเพียงแค่ได้เห็นมันก็มีความสุขแล้วอีกอย่างมันเป็นแรงกระตุ้นให้ผมต้องตั้งใจเรียน แต่ไม่รู้เป็นไงพอเห็นe46 มันก็ชอบอย่างบอกไม่ถูก ผมก็เข้ามาดูe46เกือบทุกวันแต่ตอนนั้นผมก็ไม่มีความรู้เรื่องรถเลย รู้อย่างเดียวว่าถ้า 318iคือเครื่อง2000cc 323iคือเครื่อง2400ccเท่านั้นเอง ส่วนseนั้นแตกต่างจากไม่มีseอย่างไรก็ไม่รู้ พอมาซักกลางปี 54 พ่อผมที่ทำงานต่างจังหวัดบอกว่าพอจะหาซื้อรถเก๋งมือสองงบไม่เกิน6แสน ยี่ห้อไหนก็ได้ เมื่องบประมาณนี้และผมชอบรถยุโรปเพราะมันปลอดภัยดีและมีขอบเล่นให้เราเล่นหลายอย่าง(option)ผมก็นึกได้ประมาณ2ยี่ห้อคือaudi a4-6กับvolvo s80 ส่วนถ้าเป็นbmwจะต้องe46เท่านั้นแต่ด้วยจำกัดด้วยงบจึงเล็งแค่สองยี่ห้อดังกล่าว แต่เมื่อเทียบกันสองยี่ห้อแล้วผมเลือกเป็นวอลโว่เพราะจะได้ปีใหม่กว่าโดยได้รถประมาณ2000-2003โดยไม่รู้ว่ารุ่นนี้มันดีหรือไม่ดียังไง ผมก็เลยโทรไปบอกพ่อว่าคงได้วอลโว่แต่พ่อผมบอกว่าเพื่อนพ่อเขาใช้รุ่นนี้อยู่ค่าซ่อมแพงและปัญหาเยอะก็เลยตัดไปส่วนออดี้ผมไม่ค่อยชอบทรงมันเท่าไหร่ก็นึกได้ในตอนนั้นคงต้องเป็นรถยุ่นซะแล้ว ก็นึกได้คงเป็นcamryปีประมาณ2004เพราะพ่อผมอายุ50แล้วพ่อผมขับคงเหมาะสมและไม่ต้องกังวลเรื่องซ่อมด้วย ผมก็เลยดูแคมรี่แต่ขณะเดียวกันก็ดูe46ไปด้วยเพราะชอบรุ่นนี้ัมาก(ยังคิดในใจเลยว่าคงดีนะถ้ามีงบมากกว่านี้ซักสองสามแสนคงเลือกe46อย่างเดียว)พอผ่านไปซักเดือนกว่าๆ พ่อผมก็โทรมาว่าตอนนี้พ่อมีงบประมาณไม่เกิน8แสนช่วยหาให้หน่อยแต่เอาbmwเพราะพ่อผมก็ชอบยี่ห้องนี้เหมือนกัน เมื่อได้ยินอย่างนี้ก็ดีใจจนน้ำตาคลอเลยเพราะงบได้มาประมาณนี้ก็คงได้e46อย่างแน่นอน ผมก็เลยมีแรงเข้าเวปone2carกับตลาดรถทุกวันจดรายระเอียดรวมทั้งราคา (ตอนนั้นราคาอยู่ประมาณ7แสนถึง9แสนกว่าๆ)โดยผมดูแต่รุ่นไฟยกและพวกมาลัยสามก้านพอเข้าไปดุเรื่อยๆถึงรู้ว่ารุ่นที่เราต้องการคือe46 318iseกับ323ise และเฉพาะสีดำเท่านั้นโดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลแต่อย่างใดเลยว่าวิธีเลือกซื้อรุ่นนี้ต้องทำอย่างไรโดยลืมนึกถึงe46thailandไปเลย แถวบ้านผมก็มีเต้นท์รถมือสองเยอะ(ห้วยขวาง)ผมกับเพื่อนก็เลยตระเวนขับมอไซค์ไปตามถนนรัชดาดูทุกเต้นท์ที่มีe46ก็เลยได้มาเห็นของจริงว่าหน้าตาข้างในหรือเครื่องเป็นแบบนี้พอดูหลาายๆคันก็พอแยกออกแล้วว่าเครื่องเท่าไหร่เป็นรุ่นseหรือธรรมดาแต่เรื่องโดนชนมาหรือเครื่องมีปัญหาในจุดนี้ผมไม่มีข้อมูลเลย หลังจากใช้เวลาดูอยู่หลายวัน ผมก็เริ่มต้นใหม่โดยเข้าในเวปone2carก็เลือกเฉพาะคันสีดำรุ่นseทั้งเครื่องสองพันกับเครื่องสองพันสี่ ก็ได้คันถูกใจประมาณ8คันแต่ส่วนมากอยู่แถวถนนกาญจนาทั้งนั้น(แถวนั้นไม่เคยไปซะด้วย)และประกอบกับผมดูรถมือสองไม่เป็นจึงเป็นปัญหาว่าซวยแล้วถ้าได้รถไม่ดีมาทำไงดีว้าาา ผมจึงพอนึกออกคือต้องหาช่างที่ดูรถเป็นเลยเข้าไปที่googleก็เห็นอาชีพรับจ้างดูรถมือสองแต่ในใจผมก็บอกว่ามันเสี่ยงเพราะอาชีพพวกนี้อาจจะโครกับพวกเต้นท์ก็ได้แต่ผมก็เลือกที่จะเสี่ยงจึงหาที่รับจ้างดูรถมือสองที่พอน่าเชื่อถือโดยค่าจ้างคิดเป็นคันๆละ1500ถ้าเหมาทั้งวันคิด5000 ผมจึงเหมา พอวันถึงเวลาที่จะไปดูรถก็มีผมเพื่อนผมคนเดิมที่ไปตอนดูรถที่รัชดา อาผม และก็ช่างดูรถ (อาผมยิ่งกว่าผมอีกไม่มีความรู้เรื่องรถเลยแต่ผมชวนมาเป็นเพื่อนเพราะมีแต่เด็กๆทั้งนั้นเดี๋ยวมันจะดูไม่น่าเชื่อถือ ส่วนช่างอายุประมาณ50) วันที่ดูรถนั้นดูจริงๆได้แค่6คันส่วนอีก2คันมีคนซื้อไปแล้วจากที่ช่างบอกมีอยู่สองคันเท่านั้นคือคันที่4กับ5ส่วนคันอื่นย้อมแมวทั้งนั้นช่วงที่ตรวจสอบรถแต่ละคันผมก็สังเกตการทำงานของช่างเพื่อพอนำมาเป็นความรู้ บางอย่างผมก็ถามแต่ดีนะที่ช่างเขาก็ตอบไม่กั๊กความรู้แต่อย่างใด แต่คันที่สี่กับห้านั้นช่างบอกว่าไม่ถูกชนหนักมาทำไห้ผมมีตัวเลือกแค่สองคันนี้ แต่พ่อผมเป็นคนไม่ค่อยคิดมากแต่ใจร้อนบอกว่าเอาให้ได้วันนี้เลยเสียตังค์ค่าดูรถไปแล้วทำให้ผมต้องเลือกทั้งที่ใจอยากดูต่อไปเรื่อยๆอยากได้รถที่ดีที่สุดอีกอย่างผมอยากได้323iseแต่สองคันดังกล่าวเป็น318ise ผมจึงใช้ความรู้สึกล้วนๆเลือคันที่5 แต่เรื่องช่างนั้นเขาไม่เชียร์ว่าให้ซื้อคันไหนโดยช่างบอกแต่ข้อมูลว่ารถคันนี้สภาพเป็นอย่างไรเมื่อซื้อไปแล้วต้องซ่อมอะไรบ้างโดยผมปรึกษาว่าจะเอาคันไหนเขาก็บอกว่าเรื่องการตัดสินใจเป็นเรื่องของคุณผมมีหน้าที่ดูให้เท่านั้น เมื่อกลับมาถึงบ้านผมก็ได้โทรไปหาพ่อและปรึกษาแต่ด้วยราคาที่เกินงบมาสมควรผมจึงบอกพ่อว่าเรื่องต่อรองราคาเดี๋ยวผมจัดการเอง พ่อผมก็ไว้ใจผมให้ผมจัดการทุกอย่างเลยอีกอย่างผมก็คิดว่ารถพ่อก็เหมือนรถผมโดยผมจะต้องเลือกรถและราคาให้เป็นที่น่าพอใจที่สุดพออีกวันผมก็โทรไปทางเต้นท์ว่าตกลงจะซื้อคันนี้ที่ไปดูเมื่อวาน(เกือบลืมคันนี้เป็นรุ่น318ise สีดำแต่งแม็กมาให้ ปี2005ราคา860000 ) พอผ่านไป3-4วันผมก็ไปที่เต้นท์ดังกล่าวกับเพื่อนดูเรื่องราคาแล้วต่อรองกันผมจึงพยายามต่อรองต่างๆนานาจึงได้ราคาที่820000ผมจึงมัดจำไป20000 บาทและอีกห้าวันจะมารับรถ พอเมื่อพ่อผมได้รับรถมาพ่อก็ขับกลับต่างจังหวัดไกลซะด้วย(แม่ฮ่องสอน)ก็เลยให้พ่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและยางใหม่ทั้งสี่เส้น ด้วยความที่ต้องรีบกลับพ่อผมจึงบอกว่าเดี๋ยวจะไปถ่ายของเหลวทั้งหมดที่เชียงใหม่ ตอนที่ได้รถมาผมรู้สึกดีใจมากแม้ผมจะไม่ได้มาใช้ที่กรุงเทพก็ตามแค่รู้ว่าครอบครัวผมได้e46มาเป็นสมาชิกใหม่อีกคนก็มีความสุขแล้ว(ได้รถช่วงปลายเดือนธันวาปี54) หลังจากนั้นผมก็ได้มารู้จักอยู่เวปหนึ่งชื่อว่าwww.e46thailand.com ก็เข้ามาอ่านตามกระทู้ต่างๆจากไม่มีความรู้เรื่องรถรุ่นนี้เลยผมพอก็ได้ความรู้จึงสมัครเป็นสมาชิกตอนมกราคม 03, 2012, 11:36:32 ก็เข้ามาดูเวปนี้บ้างแต่ไม่บ่อยเท่่าไหร่พอแค่ศึกษาข้อมูลลที่จำเป็นเพื่อโทรไปบอกพ่อว่าการใช้งานต่างๆต้องทำอย่างนี้นะอีกอย่างรถไม่มีปัญหาผมก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่เมื่อผมรู้ว่าตอนนี้ผมจะได้e46มาใช้แล้วผมก็ได้เข้าเวปwww.e46thailand.com อีกครั้งหนึ่งเพื่อศึกษาอย่างจิงจังว่าถ้ามีปัญหาซ่อมที่ไหนอย่างไร มีวิธีแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆอย่างไรบ้าง อาทิตย์กว่าๆที่ผ่านมาผมจำงเข้ากระทู้พูดคุยทั่วไปตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้าย อยากบอกว่าตาผมแทบทะลักเลย แสบตาเพราะดูทั้งวันทั้งคืนตั้งแต่ตื่นขึ้นมาก็เปิดดูถึงตีหนึ่งตีสองเกือบทุกวัน ได้ความรู้พอสมควรและความฮาที่มีสาระ แต่ที่ผมได้จากการที่อ่านกระทู้ดังกล่าวคือ ในกระทู้มีแต่พี่ๆที่มีน้ำใจกันมาก อ่านแล้วรู้สึกได้เลยว่าพี่ๆในนี้รักกันจริงคอยช่วยเหลือแบ่งปันกัน มีข้อมูลอะไรก็แชร์ ช่วยกันแก้ปัญหาต่างๆ มีแต่กัลยานิมิตรทั้งนั้น ผมดีใจมากที่ได้มาเป็นสมาชิกในแห่งนี้เพราะขนาดผมยังไม่เคยร่วมกิจกรรมหรือได้เห็นพี่ๆจริงๆแต่ความรู้สึกของผมมันบอกว่าที่นี่ใช่เลย มีทั้งความอบอุ่น ความเป็นกันเองและอีกหลายอย่างที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ผมขอขอบคุณพี่ๆทุกคนที่คอยให้ข้อมูลและตอบปัญหาต่างๆเพื่อเป็นความรู้แ่เพื่อนสมาชิกทั้งหลาย สุดท้ายนี้ผมขอฝากเนื้อฝากตัวอย่างเป็นทางการแล้วกันนะครับ ถ้ามีโอกาสผมจะพยายามร่วมกิจกรรมที่พวกพี่ๆจัดขึ้น(รายได้ผมยังไม่มี ทุกวันนี้ยังต้องขอเงินพ่อแม่อยู่เลยไม่สามารถร่วมกิจกรรมกับพี่ๆได้เต็มที่แต่ถ้าผมได้งานและมีเงินผมจัดเต็มแน่ๆ 5555คือจะไปทุกงานเลย ) ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วนอกจากคำว่า ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณและขอบคุณจากใจน้องคนนี้ครับ