ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เรื่องซ่อมรถนี่ แพงหรือถูก อยู่ที่บุคคลผู้เป็นเจ้าของรถครับบางคนเน้นอะไหล่แท้ ไม่ได้สนใจคุณภาพ คิดว่าแท้ไว้ก่อนดีกว่า ซ่อมแบบนี้ กระเป๋าหนัก ใจถึง แพงแน่ ๆ บางคนเน้นอะไหล่เทียบ ใช้ได้ ดีกว่า หรือ เทียบเท่า ขยันหาแหล่งซื้อ ขยันถาม รู้จักเทียบกับรถญี่ปุ่น แบบนี้ก็ซ่อมเหมือนรถญี่ปุ่นครับอะไหล่แท้บางตัวก็ถูกกว่าอะไหล่เทียบ ก็มีซื้อศูนย์ก็มีแพงและถูกกว่าร้านอะไหล่ เลือกให้เหมาะครับ
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินเรื่องซ่อมรถนี่ แพงหรือถูก อยู่ที่บุคคลผู้เป็นเจ้าของรถครับบางคนเน้นอะไหล่แท้ ไม่ได้สนใจคุณภาพ คิดว่าแท้ไว้ก่อนดีกว่า ซ่อมแบบนี้ กระเป๋าหนัก ใจถึง แพงแน่ ๆ บางคนเน้นอะไหล่เทียบ ใช้ได้ ดีกว่า หรือ เทียบเท่า ขยันหาแหล่งซื้อ ขยันถาม รู้จักเทียบกับรถญี่ปุ่น แบบนี้ก็ซ่อมเหมือนรถญี่ปุ่นครับอะไหล่แท้บางตัวก็ถูกกว่าอะไหล่เทียบ ก็มีซื้อศูนย์ก็มีแพงและถูกกว่าร้านอะไหล่ เลือกให้เหมาะครับ ขับรถยุโรปมือสอง ต้องเรียนรู้และทำการบ้านเยอะหน่อยครับ ถ้ารู้เยอะ รู้จริง จะรู้ว่าค่าบำรุงรักษาก็ไม่ได้ต่างกับรถญี่ปุ่นเลย ยกตัวอย่าง ผมเคยใช้ แคมรี่ ปี 08 มาสด้า 3 ปี 07 ค่าอะไหล่แท้แพงกว่า e46 ซะอีกอีกอย่างนึงคือ อะไหล่แท้ที่ผลิตโดยโรงงาน BMW นี่มีไม่กี่ชิ้นนะครับ ผมเคยไปถ่ายหนังให้โรงงานประกอบ BMW ของเครือยนตรกิจในสมัยที่ยนตรกิจยังทำ BMW อยู่ จำได้ว่าในยุคนั้น Assembly Line เป็นโฉมนกแก้ว เค๊าให้ Supplier ข้างนอกผลิตให้แทบทั้งหมดแล้วเอามาใส่กล่อง BMW โดยบวกราคาเข้าไปอีกหลายเท่าด้วยเหตุผลในเรื่องการรับประกัน Supplier พวกนี้ หลังจากหมดสัญญาผลิตก็ผลิตอะไหล่ออกมาขายภายใต้ Brand ของตนเองมีครั้งนึงเคยไปถ่ายวีดีโอโรงงานผลิตไดชาร์จ ไดสตาร์ท แล้วลาดกระบัง โรงงานใหญ่มาก ผลิต Supply ให้รถยุโรปแทบทุกยี่ห้อ สอบถามราคาต่อหน่วยจากเจ้าของโรงงานได้ความว่า "ผมบอกราคาคุณไป เดี๋ยวพาลจะไม่อยากซื้อรถยุโรป คือราคามันเท่าๆกับรถญี่ปุ่นนั่นแหละ"
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินเรื่องซ่อมรถนี่ แพงหรือถูก อยู่ที่บุคคลผู้เป็นเจ้าของรถครับบางคนเน้นอะไหล่แท้ ไม่ได้สนใจคุณภาพ คิดว่าแท้ไว้ก่อนดีกว่า ซ่อมแบบนี้ กระเป๋าหนัก ใจถึง แพงแน่ ๆ บางคนเน้นอะไหล่เทียบ ใช้ได้ ดีกว่า หรือ เทียบเท่า ขยันหาแหล่งซื้อ ขยันถาม รู้จักเทียบกับรถญี่ปุ่น แบบนี้ก็ซ่อมเหมือนรถญี่ปุ่นครับอะไหล่แท้บางตัวก็ถูกกว่าอะไหล่เทียบ ก็มีซื้อศูนย์ก็มีแพงและถูกกว่าร้านอะไหล่ เลือกให้เหมาะครับ ขับรถยุโรปมือสอง ต้องเรียนรู้และทำการบ้านเยอะหน่อยครับ ถ้ารู้เยอะ รู้จริง จะรู้ว่าค่าบำรุงรักษาก็ไม่ได้ต่างกับรถญี่ปุ่นเลย ยกตัวอย่าง ผมเคยใช้ แคมรี่ ปี 08 มาสด้า 3 ปี 07 ค่าอะไหล่แท้แพงกว่า e46 ซะอีกอีกอย่างนึงคือ อะไหล่แท้ที่ผลิตโดยโรงงาน BMW นี่มีไม่กี่ชิ้นนะครับ ผมเคยไปถ่ายหนังให้โรงงานประกอบ BMW ของเครือยนตรกิจในสมัยที่ยนตรกิจยังทำ BMW อยู่ จำได้ว่าในยุคนั้น Assembly Line เป็นโฉมนกแก้ว เค๊าให้ Supplier ข้างนอกผลิตให้แทบทั้งหมดแล้วเอามาใส่กล่อง BMW โดยบวกราคาเข้าไปอีกหลายเท่าด้วยเหตุผลในเรื่องการรับประกัน Supplier พวกนี้ หลังจากหมดสัญญาผลิตก็ผลิตอะไหล่ออกมาขายภายใต้ Brand ของตนเองมีครั้งนึงเคยไปถ่ายวีดีโอโรงงานผลิตไดชาร์จ ไดสตาร์ท แล้วลาดกระบัง โรงงานใหญ่มาก ผลิต Supply ให้รถยุโรปแทบทุกยี่ห้อ สอบถามราคาต่อหน่วยจากเจ้าของโรงงานได้ความว่า "ผมบอกราคาคุณไป เดี๋ยวพาลจะไม่อยากซื้อรถยุโรป คือราคามันเท่าๆกับรถญี่ปุ่นนั่นแหละ" แบรนด์ทำให้เราขายของได้แพงขึ้นครับ
6 สูบ iase ไปเลยครับ จบแน่ๆ
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินเรื่องซ่อมรถนี่ แพงหรือถูก อยู่ที่บุคคลผู้เป็นเจ้าของรถครับบางคนเน้นอะไหล่แท้ ไม่ได้สนใจคุณภาพ คิดว่าแท้ไว้ก่อนดีกว่า ซ่อมแบบนี้ กระเป๋าหนัก ใจถึง แพงแน่ ๆ บางคนเน้นอะไหล่เทียบ ใช้ได้ ดีกว่า หรือ เทียบเท่า ขยันหาแหล่งซื้อ ขยันถาม รู้จักเทียบกับรถญี่ปุ่น แบบนี้ก็ซ่อมเหมือนรถญี่ปุ่นครับอะไหล่แท้บางตัวก็ถูกกว่าอะไหล่เทียบ ก็มีซื้อศูนย์ก็มีแพงและถูกกว่าร้านอะไหล่ เลือกให้เหมาะครับ ขับรถยุโรปมือสอง ต้องเรียนรู้และทำการบ้านเยอะหน่อยครับ ถ้ารู้เยอะ รู้จริง จะรู้ว่าค่าบำรุงรักษาก็ไม่ได้ต่างกับรถญี่ปุ่นเลย ยกตัวอย่าง ผมเคยใช้ แคมรี่ ปี 08 มาสด้า 3 ปี 07 ค่าอะไหล่แท้แพงกว่า e46 ซะอีกอีกอย่างนึงคือ อะไหล่แท้ที่ผลิตโดยโรงงาน BMW นี่มีไม่กี่ชิ้นนะครับ ผมเคยไปถ่ายหนังให้โรงงานประกอบ BMW ของเครือยนตรกิจในสมัยที่ยนตรกิจยังทำ BMW อยู่ จำได้ว่าในยุคนั้น Assembly Line เป็นโฉมนกแก้ว เค๊าให้ Supplier ข้างนอกผลิตให้แทบทั้งหมดแล้วเอามาใส่กล่อง BMW โดยบวกราคาเข้าไปอีกหลายเท่าด้วยเหตุผลในเรื่องการรับประกัน Supplier พวกนี้ หลังจากหมดสัญญาผลิตก็ผลิตอะไหล่ออกมาขายภายใต้ Brand ของตนเองมีครั้งนึงเคยไปถ่ายวีดีโอโรงงานผลิตไดชาร์จ ไดสตาร์ท แล้วลาดกระบัง โรงงานใหญ่มาก ผลิต Supply ให้รถยุโรปแทบทุกยี่ห้อ สอบถามราคาต่อหน่วยจากเจ้าของโรงงานได้ความว่า "ผมบอกราคาคุณไป เดี๋ยวพาลจะไม่อยากซื้อรถยุโรป คือราคามันเท่าๆกับรถญี่ปุ่นนั่นแหละ" แบรนด์ทำให้เราขายของได้แพงขึ้นครับโรงงานไหนครับ 555+ หลังไมค์ก็ได้ครับ
สวัดดีครับพี่พี่ผมเองมีปัญหามาขอความเห็นหน่อยครับผมเองเมื่อเดือนมกราคม ขับรถคันเดิมจนเกิดเหตุที่ต้องสละรถไปเพราะรถไฟไหม้....ตอนนี้ผมเองเลยไม่มีรถใช้ เลยมองไปมองมาเลยอยากเอาโอกาสนี้มาสารฝันในวัยเด็ก เลยคิดว่ารถคันต่อไปอยากจะจับจอง e46 ครับ แต่ติดปัญหาคือผมเองรถที่ใช้มา 3 คันเป็นรถญี่ปุ่นและเป็นรถป้ายแดงทั้งหมดครับ แต่พอมาตอนนี้อยากจับจองe46. ก็กลัวว่าจะมีปัญหาเรื่องการซ่อมะเป็รรถยุโรปด้วยเลยเกรงค่าซ่อมว่าจะแพงครับเพราะเห็นพี่แต่ละท่าน ที่อ่านในอากู๋ เค้าซ่อมเป็นแสนครับ ผมเองเลยกลัวว่าจะไม่ไหวเลยอยากจะขอความการุณาจากพี่ๆมาแชร์ประสพการหน่อยครับคือผมเองมีเงินดาว 200,000 และผ่อนได้ต่อเดือนท่าแบบไม่ตึงมือมากก็ได้ไม่เกิน 12,000-13000 คับตอนนี้ผมดู 318 ise วิ่ง 120,000 ไฟยก 690,000 กับ. 325 ise. วิ่ง 6x,xxx ไฟยก. 770,000ซึ่ง ราคานี้ก็ตึงมากครับแต่ใจผมไปทาง318 ครับเพราะราคาถูก เลยขอความเห็นของพี่พี่หน่อยครับ ว่าตัวไหนดีและไม่ดี ตรงไหนครับ และท่าผมซื้อมาซ่อมเยอะมั้ยครับแล้วผมต้องเตรียมเงินซ่อมเบื่องต้นเท้าไหร่ครับท่าจะทำให้มันไม่งอแงคับ ผมทราบว่าตรงนี้แล้สแต่สภาพแต่ขอปัญหาพื้นฐานหน่อยครับ. เพื่อการตัดสินใจครับบขอบคุณพี่พี่มากครับบ..... ผมเองตั้งแต่เดกเจอรุ่นนี้ e46 ผมชอบเพราะมันหล่อมากคราบบบบ ยังไงขอความการุณาจากพี่พี่ด้วยนะครับ. ขอบคุนครับบ
ผู้เขียน
หัวข้อ: ผมขอความเห็นหน่อยครับจากพี่พี่ ผมเองกำลังจะซื้อ e46 ไม่ทราบว่าจะดีมั้ยครับ (อ่าน 1802 ครั้ง)
