
สวัสดียามบ่ายของวันศุกร์ครับพี่น้อง..พรุ่งนี้ก็จะได้นอนตื่นสายๆแล้ว เย้ๆๆ

ฟ้าใสๆหลังฝนช่างน่ายล..แต่จะมืดมัวอีกเมื่อใดใครจะรู้ บ่อยครั้งที่เรื่องวุ่นวายบนโลกใบนี้สาเหตุมาจากการรับรู้ข้อมูลของผู้คน ในคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีอยู่เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับหลักความเชื่อ 10 ประการ ซึ่งหากเรานำมาเป็นหลักยึดถือปฏิบัติ ผมเชื่อว่าโลกใบนี้คงน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลย...
...นำมาฝากกันเพื่อเตือนสติในการรับข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลบนโลกอินเตอร์เน็ตสมัยนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆไม่มากก็น้อยครับ
วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร) หลักธรรมในพระพุทธศาสนานี้พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ ที่อาศัยอยู่ในเกสปุตตนิคม แคว้นโกศล เนื่องจากในสมัยนั้นมีผู้อวดอ้างตนในคุณวิเศษกันมากเชิดชูแต่ลัทธิของตัว พูดจากระทบกระเทียบดูหมิ่นลัทธิอื่น พร้อมทั้งชักจูงมิให้เชื่อลัทธิอื่น เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จถึงเกสปุตตนิคมดินแดนที่เต็มไปด้วยผู้อวดอ้าง ชาวกาลามะได้ทูลถามด้วยความสงสัยว่าใครพูดจริง ใครพูดเท็จ ?
พระพุทธองค์จึงทรงแสดงกาลามสูตร ว่าด้วย วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย
หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ เป็นหลักตัดสิน คือ
1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา เมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า..ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศลหรือมีโทษเมื่อนั้นพึงละเสีย และเมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า..ธรรมเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษเมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติ ดังนั้น พระสูตรนี้ท่านมิได้ห้ามมิให้เชื่อ แต่ให้เชื่อด้วยมีปัญญาประกอบด้วยมิฉะนั้นความเชื่อต่างๆ จะไม่พ้น"ความงมงาย" และไม่พึงแปลความเลยเถิดไปว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้เชื่อสิ่งเหล่านี้ และให้เชื่อสิ่งอื่นนอกจากนี้แต่พึงเข้าใจว่า แม้แต่สิ่งเหล่านี้ซึ่งบางอย่างก็เลือกเอามาแล้วว่า..เป็นสิ่งที่น่าเชื่อที่สุด ท่านก็ยังเตือนไม่ให้ปลงใจเชื่อ ไม่ให้ด่วนเชื่อ ไม่ให้ถือเป็นเครื่องตัดสินเด็ดขาดยังอาจผิดพลาดได้ ต้องใช้ปัญญาคิดพิจารณาให้ดีก่อน
.....แม้กระทั่งสิ่งอันตนรวมเหตุรวมผลให้เชื่อ..ท่านยังให้ระมัดระวังว่าอย่าเพิ่งปักใจเชื่อในทั้งหมด
.....แล้วสิ่งอื่นคนอื่นให้มาชักจูงชี้นำ เราจะต้องคิดต้องพิจารณาระมัดระวังให้มากสักเพียงไหน??
