ลองมอง Weitec ดูครับ ประสบการณ์เหมือน KW แต่ไม่รั่วจุกจิกบ่อยเท่า
ผมเคยผ่านทั้งของเดิม , KW ตัวเกือบท็อป , H&R Street Perf และสุดท้ายงาน Custom จาก Studie A.G.
ตามจริงอยากแนะนำพวกงาน Custom จากฝั่งญี่ปุ่นเขา (กระบอกโช๊คอีกแบรนด์ สปริงอีกแบรนด์ ตัวปรับอีกแบรนด์ แต่ลงตัวมาก)

ขอคำแนะนำของ คัสตั้มจากญี่ปุ่นหน่อยครับ เอาไว้เป็นทางเลือกอีกทางครับ
ขอบคุณครับ

ผมได้มาจากรถประมูล สภาพดีมาก คันนี้เขาแต่งมาทั้งคัน (ผมก็เอามันมาทั้งคัน) หาค่อนข้างยากครับ
รีวิวผมก็เขียนไว้ในเพจเฟซบุ๊ค ผมก๊อบมาหมดเลยแล้วกันตั้งใจจะเขียนรีวิวช่วงล่างชุดนี้มาก็นานแล้ว ตั้งแต่ได้ขับวันสองวันแรก แต่ก็ยังไม่มั่นใจ ใช้มาเป็นอาทิตย์ก็ยังไม่คิดว่ามันจะเจ๋งขนาดแบบอะไรไร้จุดด้อย ก็เลยตั้งใจว่าจะเขียนหลังจากใช้งานจนเข้าที่ (เอาจริง ๆ คือผมขี้เกียจ)
อย่างแรกต้องทราบกันก่อนว่า ช่วงล่างชุดนี้มีที่มาอย่างไร
ช่วงล่างชุดนี้ มากับรถประมูลคันหนึ่ง ซึ่งของแต่งจัดเต็มเกือบทุกอย่างเกี่ยวกับ E46 ในด้านการตกแต่งและช่วงล่าง ไม่ว่าจะเป็นเบรก Brembo GT , กันโคลง ARC Pipe Stabilizer , ปีกนก M ลูกหมากปีกนกยางตัน ๆลๆ อีกมากมายสารพัดที่ผมไม่กล่าวในที่นี้ เอาเป็นว่ามันจัดเต็มมาก เกือบจะที่สุดถ้าเกิดมองจากมุมของคนที่อยู่ในวงการประมูลรถผ่าน Auction มา (ไม่ใช่จั๊งค์นะครับ จั๊งค์มันจัดหนักจัดเต็ม แต่ใช้ไม่ได้สักชิ้น)
ทีนี้ ช่วงล่างเป็นอะไรที่แปลกมาก พี่โต้ง คนที่ประมูลรถคันนี้เข้ามาก็บอกว่า โช๊คมันไม่มียี่ห้อนะ พี่ไม่รู้จัก ผมก็ยิ่งอยากจะไปดูว่ามันเป็นของอะไรกันแน่ เมื่อไปเห็นแล้วก็ตกใจครับ คือมันไม่มียี่ห้อจริง ๆ รู้แต่ว่าตัวสปริง เป็นสปริงแบบ Linear (สปริงหลอด) ทั้งหน้า และหลัง ด้านหน้าเป็นสปริงของ Eibach จากเลขพาร์ท สปริงตัวนี้สูง 6 นิ้ว มีความแข็งที่ 8k ส่วนด้านหลัง เป็นสปริงแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Tohatsu Racing (พูดชื่อนี้คงไม่รู้จัก) Swift (อาจจะพอได้ยินมาบ้าง) เป็นสปริงรหัส 120 หรือความแข็งที่ 12k นั่นเอง ความสูงก็เช่นกันครับ 6 นิ้ว
ตัวกระบอกโช๊ค ทั้งหน้าและหลัง เป็นโช๊คแบบโมโนทิวป์ กระบอกใหญ่ นุ่มนวล ทนทาน เป็นเทคโนโลยีใหม่ครับ (ถ้าเป็นสตรัทจากไต้หวัน หรือจีน หรือจากทางยุโรปรุ่นเก่า ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นทวินทิวป์อยู่ ซึ่งประสิทธิภาพต่างกันจริง ๆ) และเป็นลักษณะอัพไซด์ดาวน์ หรือโช๊คกลับหัว โช๊คหน้าอาจจะดูแล้วไม่ชัดเจน แต่ข้างหลังจะชัดเจน เพราะตัวกระบอกจะกลับด้านกัน (ตามภาพโช๊คหลัง) ในด้านหน้าเอง จะใช้เป็นเบ้าโช๊คแบบเยื้องแบบ M3 และเป็น Camber/Caster Plate ในเวลาเดียวกัน ซึ่งถ้าเทียบเคียงแล้ว จะเหนือกว่าตัว KW Clubsport ที่ผมเคยใช้เสียอีก
สรุปสเป็คของช่วงล่างรถผมในขณะนี้
Shocks (โช๊ค)
Custom Spec, Monotube, Zinc-Coated Coilover, Upside-Down Technology (un-Adjustable) Normal Length
Spring (สปริง)
Front, Eibach Spring 35/98 0600.250.0550 (Linear) 8k / 6inch
Rear, Tohatsu Spring スウィフト Swift ID65 Color Copper Brown Metallic 120 (Linear) 12k / 6inch with KW Clubsport Spring Adjustment
Accessories (อุปกรณ์เสริม)
M3 CSL Front Strut Tower Brace
M3 Front Camber/Caster Plate with Ball joint Adjustable
OrT Rear Camber Adjustment
การติดตั้งก็ไม่มีอะไรพิสดารครับ นอกจากเรื่องของสปริงหลังที่ไม่มีตัวปรับมาให้ ผมก็เลยติดตั้งตัวปรับของ KW แบบที่สร้างขึ้นมาเข้าไป เพราะเห็นว่าตัวสปริงมันเตี้ยมาก คาดว่าน่าจะเตี้ยแบบซุ้มบดกับล้อ เปล่าเลย ใส่ตัวปรับที่ทำขึ้นมาแล้วรถกลับสูงโย่งเป็นรถออฟโร๊ด สรุปก็ต้องถอดตัวปรับ แล้วใส่แบบของเดิม KW ที่ผมมีอยู่ แล้วปรับขึ้นแค่เกลียวสองเกลียว ก็ได้ความสูงที่สวยแล้ว
หลังจากติดตั้งเสร็จ ก็ต้องทดสอบแบบเต็มที่ ผมตัดสินใจเขียนรีวิวชิ้นนี้หลังจากใช้ช่วงล่างชุดนี้มาราว ๆ 2000 กิโลครับ (เขียนบอกระยะแบบนี้ผมไม่กะขายแน่นอน) ผลปรากฏว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่งยวดในหลาย ๆ เรื่อง ในเรื่องแรกเลยก็คือ โช๊คโมโนทิวป์นั้น ต่อให้เป็นแบบ Coilover ก็ยังรู้สึกกระด้างน้อยกว่าแบบทวินทิวป์ ไม่กระเด้งกระดอนเกินไป กระโดดไม่เหินมาก
สองคือ ไม่ต้องกังวลการมานั่งปรับแข็งอ่อน เนื่องจากตัวโช๊คนั้นถูกสร้างขึ้นมาเป็นสเป็คพิเศษ คาดว่าเจ้าของรถน่าจะสั่งทำขึ้นโดยเฉพาะ เนื่องจากมันเหมาะสมกับรถผมแบบลงตัว เพอร์เฟ็ค แถมเข้ากับสปริงแบบหลอด (Linear) แบบกิ่งทองใบหยก ด้วยที่ข้างหน้า เบ้าโช๊คเป็นแบบ M3 เบ้าเยื้อง ล้อจึงโผล่ออกมามากกว่าปกติ ผมทดสอบโดยการนั่ง 5 คน บรรทุกของเต็ม กระโดดสะพาน ปรากฏว่ามีสีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งตามปกติแล้วคาดว่าอาจจะสีจนยางฉีกไปเลยก็ได้
สาม ฟิลลิ่งในการขับกับสปริงแบบหลอด ให้ความรู้สึกแบบสปอร์ตและเฟิร์มมาก จะเร่งแซง ปาด หักหลบระยะประชิด หรือแม้กระทั่งการวิ่งในเมืองก็ทำได้อย่างไร้ที่ติ และไม่รู้สึกแข็งจนปวดตัวเวลาขับ ส่วนตัวผมมองว่าชุดนี้นั่งสบาย และขับได้เจ๋งและรุนแรงกว่า KW Clubsport มาก ช่วงล่างชุดนี้ผมทดสอบตั้งแต่ทางด่วน (มอเตอร์เวย์ ไปกลับมหาลัยทุกวัน) ทางต่างจังหวัด (เส้นทางสายอีสานจนสุดที่นครพนม และกลับมากรุงเทพ) ทางลัดออฟโร๊ดต่างจังหวัด ทางดินลูกรัง ๆลๆ มันคือที่สุดสำหรับรถ BMW ตัวถัง E46 แล้ว ฟิลลิ่งของมันคือ Coilover ระดับหกถึงเจ็ดหมื่นบาท ที่อุปกรณ์เสริมจัดเต็มที่สุดเท่าที่ผมเคยใช้มา ผมกล้าพูดได้ เพราะผมใช้สตรัทรุ่นที่อยู่ในระดับเรือธง (Flagship) ของ KW มาแล้ว ไม่ใช่ตาสีตาสามาพูดกันว่าช่วงล่างเดิมนี่ดีที่สุดโดยไม่เคยใช้ช่วงล่างชุดอื่นในชีวิต
สี่ มันแปลก ไม่เหมือนใคร ไม่มีใครใช้ และถ้าจะหาคงไม่มีแล้ว
มาถึงข้อเสียบ้าง อย่างว่าแหละครับมันคือ Coilover จะมาเอานุ่มแบบโช๊คปกติคงไม่ได้ เวลาผ่านหมอนนี่ชัดมาก วันหนึ่ง ผมกินก๋วยเตี๋ยวเรือแถวแฟลตคลองจั่นมาอย่างหนัก แล้วรีบวิ่งออกไป ปรากฏว่าเจอหมอนแล้วซัดเต็มแรง แค๊ปหมูนี่ลอยมาชนคอกันเลย
ต่อมา ด้วยความที่มันเป็นสปริงหลอด ความนุ่มนวลจะน้อยกว่าสปริงแบบขด (Progressive) มาก หากมีญาติผู้ใหญ่นั่งด้วยอาจจะโดนบ่น (ของผมไม่โดนบ่นครับ เนื่องจากที่บ้านชอบความเฟิร์มแบบสปริงหลอดมากกว่าสปริงขด)
สุดท้าย ตัวโช๊คมันเป็นอัพไซด์ดาวน์ อาจจะมีเสียงตุง ๆๆๆๆ เวลาขับผ่านหลุมถี่ ๆๆ ซึ่งถ้าต้องการความเงียบอาจจะรู้สึกรำคาญก็เป็นได้
เมื่อช่วงล่างติดตั้งเสร็จสิ้น แน่นอน ตั้งศูนย์ครับ ร้านเดิม วิภาวดีการยาง รามอินทรา กม.8 หากมีเวลาจะมาเขียนรีวิว เบอร์โทรและแผนที่ครับ








