[thekiosk]

ผมไม่ได้ขายของนะ

เนื่องจากผมไม่อยากลงทุนมาก และชอบ look ภายในเดิมๆของเจ้าวิทยุที่ติดรถมา.. แต่ก้ออยาก hiso ที่สามารถเล่นเพลงจาก มือถือ, iPod, iPad, iPhone กะเค้าบ้าง

จึงคิดแก้ปัญหานี้ได้ด้วย2 วิธี
1. ต่อสาย AUX และ ต่อกับ Bluetooth receiver
2. ใช้ Bluetooth receiver และส่งออกทาง FM

สรุปผมเลือก ข้อ 2 เพราะว่าไม่ต้องเจาะไม่ต้องถอดอะไรเลย

ข้อดี:
- ไม่ต้องเจาะ ไม่ต้องแกะ หรือตัด ไม่ต้องถอดอะไรเลย
- ไม่ต้องเดินสายไฟ เพื่อเป็นแหล่งจ่ายไฟให้ Bluetooth receiver
- ทำเองได้

ข้อเสีย:
- เสียงอาจจะไม่ดี เพราะเรามีตัวเลือกน้อย เนื่องจากเสียงจะดีหรือไม่อยู่ที่เจ้า Bluetooth receiver และยังต้อง transmit ให้เป็น FM อีก
- อาจจะทำเองไม่ได้ (ทำได้ยาก)

หน้าตาของมันเป็นแบบนี้ครับข้อ 2 ที่ผมเลือก

ผมไม่ได้ขายของนะ แค่มาแนะนำคนที่อยากทำแบบผม

จบที่งบประมาณ 700บาท(ผมว่าต่อราคาได้อีกหละ ต้นทุนไม่น่าเกิน 350 ลองเดินหากันนะครับ ฟอร์จูนชั้น 4ใกล้ๆ it city)

[mroboston]

 

[tom46]

 

[ธเนศ]

น้องน๊อต ยินดีที่ได้พบปะและพูดคุยด้วย

ผมว่า blue tooth ถ้าใช้กับโทรศัพท์จะ ok น้ะ
แต่ถ้าฟังเพลง ต้องสาย aux เกรดดีหน่อย
เคยลอง transmitter มาหลายตัวแล้ว คุณภาพของเสียงหายทันที (ความเห็นส่วนตัว) ครับ

[thekiosk]

น้องน๊อต ยินดีที่ได้พบปะและพูดคุยด้วย

ผมว่า blue tooth ถ้าใช้กับโทรศัพท์จะ ok น้ะ
แต่ถ้าฟังเพลง ต้องสาย aux เกรดดีหน่อย
เคยลอง transmitter มาหลายตัวแล้ว คุณภาพของเสียงหายทันที (ความเห็นส่วนตัว) ครับ

 
ขอบคุณครับพี่ธเนศ

[thekiosk]

มา update การใช้งานครับ

ผมเป็นคนที่จะเอารถมาวิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น วันธรรมดานั่งรถไฟฟ้าคับ...ทีนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7/2/2016 ผมก้อเอารถไปขับเล่น พร้อมกับลองฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ผลก้อน่าพอใจ เสียงใสเหมาะสมกับราคา การส่งสัญญาณ FM เข้าเครื่องวิทยุก้อทำได้ดี ผมลองใช้คลื่น 108.00 FM ก้อไม่กูรบกวนใดๆ


เมื่อผมกลับเข้ามาจอดที่คอนโด ดับเครื่องแล้วก้อเดินออกจากลานจอดรถ ผมสังเกตเห็นว่าไฟที่ตัวมันยังติดอยู่...ผมก้อไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะคิดว่ามันอาจจะมีแบตเตอร์รีในตัว เพื่อเอาไว้จดจำการใช้งานล่าสุด

เวลาผ่านไปจนถึงเมื่อวาน 11/2/2016 ผมก้อลงไปที่ลานจอดรถเพื่อไปสตาร์ทรถ ให้เครื่องได้อุ่นดูบ้าง...ก้อเปิดประตูผมก้อยังเห็นไฟที่เครื่องตัวนั้นก้อยังติดอยู่..ในใจคิดว่าทำไมแบตในตัวเครื่องมันอยู่นานจังว๊ะ อืดโคตรๆ

หลังจากนั้นผมก้อกด remote เปิดประตูและขึ้นไปนั่งพร้อมสตาร์ทรถ..ปรากฏว่าไม่ติดครับ    ผมเนี่ยใจหายเลย รถสุดที่รักของผมเป็นอะไรเนี่ย..ผมลงไปเรียกพี่ ร. ป. ภ. ให้เอาแบตมาจั๊มให้ผมหน่อย..ไม่เกิน 5 นาทีพี่เค้าก้อมา..ผมจึงเปิดกระโปรงหลังและต่อขั้วแบตแล้วจึงลอง สตาร์ท..บร๊ะเจ้า ไม่ติดครับ..ใจเสียหน้าเสีย แต่ก้อต้อรีบไปทำงานก่อน จึงทิ้งปัญหาไว้ตรงนั้นก่อนแล้วค่อยคิดวิธีการแก้ไข

พอมาถึง office ผมก้อหาข้อมูลในเวปบอร์ดนี้หละครับว่าทำไมจั๊มแบตแล้วยังสตาร์ทไม่ติด..เจอเยอะมากครับ หลากหลายอาการ หลากหลายราคา ผมงี้หน้าซีดเลย ยังไม่พร้อมเสียเงินจริงๆ..ผมไปเจออยู่กระทู้นึงบอกว่า ให้ลองเปิดไฟหน้าดูแล้วลองสตาร์ทว่าไฟจะกระพริบหรือไม่ ถ้าไฟกระพริบ ให้มุ่งเป้าไปที่แบตเตอร์รี่หมดก่อน..ไปลองกัน

ผมกลับจาก office ตอนบ่าย..ลางานครึ่งวันเลยครับ..แล้วลองตามวิธีที่เค้าบอก ปรากฏว่าน่าจะเป็นที่แบตจิงๆหละ ไฟหน้ามันกระพริบ..ผมจึงขอให้พี่ ร. ป. ภ. มาอีกครั้ง คราวนี้จั๊บแบตด้านหน้า
ยืมจากกระทู้พี่ๆในนี้


แล้วลองสตาร์ท ปรากฏว่ายังไม่ติด...เอาแล้วไง..ใจไม่ดีอีกแล้ว

ผมเลยยกหูไปหาช่างแอ๊ด ราดพร้าว71 เล่าอาการให้ฟัง..ช่างถามมาคำเดียวว่า จั๊มแบตจากไหน?..รถอีกคันที่กำลังสตาร์ทอยู่หรือป่าว? สายจั๊มดีหรือป่าว?

หลังจากทวนคำพูดของช่างซ้ำ พี่ ร. ป. ภ. เข้ามาสะกิดว่า สายเส้นนี้ไม่ค่อยดีนะครับ..เค้าเลยขยับๆดูแล้วให้ผมเข้าไปสตาร์ทใหม่...เดชะบุญ ทีเดียวติดเลยครับ   โล่งอย่างบอกไม่ถูก


สรุปว่า
1. เจ้าตัวนี้สูบแบตเกือบหมด ทำให้กำลังไฟไม่พอเพื่อที่จะสตาร์ท
2. การจั๊มแบต ควรต่อกับรถอีกคันที่กำลังสตาร์ทอยู่
3. สายจั๊มแบต ควรจะใช้อย่างดี
4. ถ้าสตาร์ทไม่ติด ให้ลองเปิดไฟหน้าดูแล้วลองสตาร์ทใหม่ ถ้าไฟกระพริบ ให้มุ่งเป้าไปที่ปัญหาที่แบตเตอร์รี่

[oon_resist]

อันตรายนะครับ เพราะที่จุดบุหรี่ E46 ไม่ตัดไฟตามกุญแจนะครับ จ่ายไฟตลอด ระวังไฟไหม้รถครับ

[thekiosk]

อันตรายนะครับ เพราะที่จุดบุหรี่ E46 ไม่ตัดไฟตามกุญแจนะครับ จ่ายไฟตลอด ระวังไฟไหม้รถครับ

เป็นข้อควรระวังสำหรับคนที่เคยขับรถญี่ปุ่นมาก่อน แล้วมาขับรถยุโรปเลยนะครับ..เพราะรถญี่ปุ่นมันจะตัดไฟออก หลังจากดับเครื่อง..แต่ไม่รู้ว่ารถยุโรปรุ่นใหม่ๆจะตัดไฟหลังจากดับเครื่องแล้วหรือยัง

[kongpair]

MAZDA ก็ไม่ตัดแล้วครับหลัง ๆ จ่ายไฟตลอด