ถาม:
ผมเคยเห็นบทความในหนังสือพิมพ์บางฉบับ รวมทั้งที่เล่าต่อๆ กันมา ถึงกลโกงในการขายรถมือสองของพวกเต็นท์หรือผู้ค้า จากเดิมที่ชอบหลอกเอารถมือสองของเต็นท์มาจอดตามบ้าน แล้วประกาศว่าเป็นรถบ้านแท้ๆ หลอกให้คนซื้อตัดสินใจง่ายขึ้น คราวนี้พอคนเริ่มรู้ทัน ก็ได้ข่าวว่ามีการเปลี่ยนวิธีใหม่ จ้างเด็กนักศึกษาผู้หญิงที่หน้าตาดีหน่อย สวมรอยเป็นเจ้าของแล้วประกาศเพื่อให้นัดแนะกันดูรถ เมื่อคนซื้อเห็นจึงคิดว่านักศึกษาใช้เอง และอาจจะเจอกับความสวยด้วย ก็เลยชะล่าใจไม่ตรวจสภาพรถให้ละเอียด ก็จะตัดสินใจซื้อง่าย นักศึกษาก็จะรับส่วนแบ่งจากเต็นท์ไป เรื่องราวที่แท้จริงเป็นอย่างไร
ตอบ:
เรื่องที่ถามมาเกี่ยวกับการปลอมรถเต็นท์ให้เป็นรถบ้านหรือเจ้าของขายเอง เกิดขึ้นเพราะความเชื่อของคนซื้อว่า รถเต็นท์ต้องย้อมแมวเสมอ ส่วนรถบ้านต้องมีสภาพดีเสมอ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว รถมือสองจะมีสภาพดีหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับแหล่งที่ขาย แต่ขึ้นอยู่กับเจ้าของเดิม การดูแล และการปรับสภาพ ผู้ซื้อจำเป็นต้องตรวจสภาพอย่างละเอียดว่าดีหรือไม่ พึงพอใจหรือเปล่า โดยไม่ต้องสนใจแหล่งที่ขาย เพราะไม่มีอะไรยืนยันสภาพได้เลย
รถเต็นท์สภาพสวยๆ ที่เจ้าของเดิมไม่อยากยุ่งยากประกาศขายเอง เอามาเทิร์นก็มีเพียบ รถบ้านสภาพเน่าๆ ประกาศขายเอง เพราะเจ้าของเขี้ยวลากดินไม่ยอมขายให้เต็นท์ หรือสภาพแย่จนเต็นท์กดราคามาก แล้วเจ้าของยอมรับไม่ได้ก็มีทั่วไป เมื่อคนซื้อเชื่อมั่นในความเป็นรถบ้าน และจะตัดสินใจซื้อง่ายกว่า จึงเป็นเหตุให้คำนี้ขลังขึ้นมา และทำให้พวกเต็นท์ใช้ความเชื่อมั่นนี้ให้เป็นประโยชน์ สวมรอยโดยหาคนรู้จักหรือลูกน้องให้เอารถไปจอดตามบ้านตัวเองหรือบ้านเช่า ทำทีเป็นรถใช้เอง ประกาศขายทีละคันตามสื่อทั่วไป คนซื้อเมื่อไปดูก็นึกว่าเป็นรถบ้าน มักจะตัดสินใจซื้ออย่างชะล่าใจ
ระยะหลังมานี้เริ่มใช้วิธีเดิมๆ ไม่ได้ผลเพราะคนซื้อจับผิดได้ จึงเกิดวิธีใหม่ขึ้นตามที่คุณถามมา คือ ปลอมรถเต็นท์เป็นรถบ้าน โดยจ้างนักศึกษาผู้หญิงที่หน้าตาดีสักหน่อย ทำทีเป็นเจ้าของ โดยเต็นท์เตรียมซิมการ์ดแบบเติมเงินของโทรศัพท์มือถือให้อันละไม่กี่ร้อยบาท ประกาศเบอร์โทรศัพท์ลงในสื่อต่างๆ พร้อมรายละเอียดของรถ ตัวนักศึกษาเองก็จดจำรายละเอียดของรถไม่กี่อย่าง เมื่อคนซื้อถาม ก็บอกแค่คร่าวๆ ตามประสาผู้หญิงที่ไม่รู้ลึกเรื่องรถ เมื่อมีคนสนใจก็ให้นักศึกษาขับรถไปตามการนัดแนะ ถามอะไรเกี่ยวกับรถ ก็ตอบแค่ว่า ใช้เอง ไม่เห็นมีอะไรเสีย ถ้าเสียก็เข้าศูนย์หรือซ่อมครบตลอด นี่พ่อจะเปลี่ยนรถคันใหม่ให้เลยต้องขาย หรือกำลังจะเรียนจบจะไปเรียนต่อเมืองนอกจึงต้องขาย ทำใสซื่อไว้ก่อน หากคนซื้อขอดูสำเนาทะเบียนก็บอกว่าชื่อเจ้าของตามกฎหมายเป็นชื่อน้าชื่อลุงไป แล้วถ้าบังเอิญว่าคนซื้อเป็นผู้ชายหัวงูหน่อย ก็อาจจะเบี่ยงเบนความสนใจมาทางความสวยของนักศึกษาสาวคนนั้น แม้ไม่ได้มีอะไรเลยเถิด แต่สมาธิที่แกว่ง ก็จะลดน้ำหนักความสนใจในการตรวจสภาพตัวรถลงไป
หากการซื้อขายจบลง นักศึกษาก็รับส่วนแบ่งไปหลายพันบาทหรือเป็นหมื่นบาท แล้วแต่ราคาเต็มของตัวรถ พอทำได้ไม่กี่คัน ก็จะเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ให้ หรือเปลี่ยนคันต่อคันเลย เพื่อไม่ให้เห็นกันบ่อยตามโฆษณา และทำได้ไม่น่าเกิน 10 คัน ก็จะจ้างนักศึกษาหน้าใหม่มาแทน เพื่อป้องกันการเจอกันซ้ำหน้าโดยบังเอิญ
นับเป็นวิธีการใหม่ ที่ใช้ทั้งความขลังของคำว่ารถบ้าน ซึ่งคนซื้อมักชะล่าใจ ผสมกับพลังดึงดูดทางเพศของนักศึกษาสาว ช่วยในการขายรถมือสอง แม้ไม่มีการบังคับซื้อ แต่ก็เป็นการโน้มน้าวที่ดี ช่วยให้มีการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น หากใครตกลงใจซื้อแล้วพบว่า รถมีสภาพจริงแย่ หรือราคาแพงเกินไป ก็ต้องโทษตัวเอง เพราะการซื้อขายแบบนี้ ไม่มีใครล้วงกระเป๋าเงินเรา นอกจากตัวเราเองที่ตัดสินใจ ส่วนผู้ซื้อจะมากด้วยเล่ห์เหลี่ยมอย่างไรก็เรื่องของเขา เพราะอำนาจการตัดสินใจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ตัวเราเอง จะมาโวยวายภายหลังไม่ได้ว่าถูกหลอกสวมรอยเอารถเต็นท์มาเป็นรถบ้าน เพราะความคุ้มค่าในการซื้อรถมือสอง อยู่ที่สภาพรถกับราคา ไม่ใช่แหล่งที่ขาย
วิธีที่ถูกต้องในการเลือกซื้อรถมือสอง คือ ไม่ต้องสนใจแหล่งที่จะซื้อว่าเป็นรถบ้าน รถเต็นท์ หรือรถเต็นท์ปลอมเป็นรถบ้าน เพราะไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลย อย่างเช่นบางคนพอไปดูรถตามบ้าน ก็จะเน้นถามว่า ขายเองจริงเหรอ พยายามจะจับผิดว่าเป็นรถเต็นท์ปลอมมาหรือไม่ แต่ไม่ค่อยสนใจดูสภาพรถเท่าไรนัก อย่างนี้ถือว่าไม่ถูกต้องและเสี่ยงอย่างมาก เพราะให้น้ำหนักความสนใจผิดที่ผิดทาง
ผมอยากเน้นว่า ให้มุ่งไปที่การตรวจสภาพจริงว่าดีหรือไม่ เหมาะสมกับราคาหรือ ถ้าสภาพดีและราคาน่าพึงพอใจ ก็จึงจะตัดสินใจซื้อ ไม่ต้องเปลืองสมองเสียเวลาไปหลอกถามหรือสืบเสาะว่ารถคันนั้นเป็นรถบ้านจริงหรือรถต็นท์แฝงมา
******************************************************
ที่มา ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์
สมัครสมาชิก หรือ
ล็อกอิน