คนแก่ขูดมะพร้าว

ผมเรียนวิทยาศาสตร์มาตลอดตั้งแต่เด็กยันโตครับ เรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ผมมักจะไม่เชื่อและต้องการเหตุผลรองรับเสมอ แต่วันหนึ่ง เมื่อผมย้ายมาอยู่บ้านที่สร้างมากับมือ แม่ก็อยากให้แม่หมอในหมู่บ้านทำพิธีกรรมต่างๆให้ เพื่อเป็นศิริมงคลแก่บ้าน ผมก็ไม่ขัด และสังเกตุว่ายายที่มาทำพิธีให้ แกมักจะเดินหาสมุนไพรอยู่บ่อยๆ ซึ่งผมเองก็กำลังเริ่มสนใจด้านนี้อยู่พอดี ก็เลยเริ่มคุยเริ่มสนิทกับยายท่านนั้น จากนั้นมา ผมก็เริ่มเปลี่ยนความคิด คือ นำวิทยาศาสตร์บวกกับความเชื่อพื้นบ้าน มารวมเป็นเหตุผลอธิบายเรื่องต่างๆบ้าง แล้วมันก็ทำให้ผมได้มุมมองใหม่ๆขึ้น ซึ่งบางทีก็สนุกดี ที่ได้คิดอะไรนอกกรอบนอกเหตุผลบ้าง
วันหนึ่ง คุณยายก็เล่าเรื่องคนแก่ขูดมะพร้าวให้ฟัง แกถามว่า ผมเคยกินของหวานรึเปล่า ของหวานของไทย ผมตอบว่าเคย บางอย่างก็ชอบด้วย แกก็เล่าต่อว่า คนแก่ที่ทำของหวานพวกนี้เพื่อขายตอนเช้า เค้าจะเริ่มขูดมะพร้าวเพื่อทำกะทิตั้งแต่เช้ามืด คือมืดมากๆ ประมาณ ตีหนึ่ง ตีสองเลย ซึ่งผมก็เห็นว่าไม่แปลก คุณยายแกก็เล่าต่อว่า เวลาที่คนแก่เค้าออกมานั่งขูดมะพร้าวในเวลาอย่างนั้น มันมักจะมีผีมาขอช่วยทำ ครับ ฟังไม่ผิด อ่านไม่ผิด ผีมาขูดมะพร้าวแทน และให้คนแก่ไปพักผ่อน ขณะที่ผีขูดมะพร้าวอยู่นั้น ผีจะทำบางสิ่งบางอย่างซึ่งจะมีผลต่อขนมที่ทำมาจากกะทิที่ขูดมา ยายบอกว่า ผีที่มาขอขูดมี2ประเภท คือ ผีดี กับ ผีชั่ว ผีดีเวลาที่มาขูดมะพร้าว จะแอบเอา น้ำค้างบนดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมในเวลากลางคืน ยอดของใบไม้ที่เป็นต้นไม้มงคลใส่ลงไปในมะพร้าว เวลาที่นำมะพร้าวที่ขูดเสร็จแล้วมาทำน้ำกะทิ และทำของหวาน ของหวานนั้นมักจะมีกลิ่นหอมและไม่เสียเร็วเหมือนกะทิทั่วไป ส่วนผีชั่ว เวลาที่ขูดมะพร้าว จะแอบใส่น้ำลายของตัวเองลงไปในมะพร้าว ซึ่ง เวลาที่นำมะพร้าวมาทำกะทิและทำขนมของหวาน ของหวานเมื่อทำออกมาแล้ว มักจะไม่หอม และบูดเสียเร็วกว่าปกติทั้งๆที่แช่ตู้เย็นไว้
เรื่องนี้ คุณๆลองไปคิดดูนะครับว่า ของหวานที่คุณซื้อมากิน มันมีกลิ่นและรสชาติเป็นอย่างไร
พอผมฟังคุณยายเล่าจบแล้ว ก็นึกถึงของหวานที่เคยซื้อมากินขึ้นมาทันที จริงด้วย บางเจ้าหอมอร่อยไม่เสียเร็ว บางเจ้าไม่หอมแถมเสียเร็วด้วย ทั้งๆที่ คนทำเป็นคนแก่

ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

