BMW E46 Thailand

พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => พูดคุย สนทนาทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: Aui-Eye ที่ ธันวาคม 18, 2014, 12:53:51

หัวข้อ: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: Aui-Eye ที่ ธันวาคม 18, 2014, 12:53:51
 O0 O0 O0
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: intania ที่ ธันวาคม 18, 2014, 13:39:56
ทำไมถึงคิดว่าไม่ไหวละครับ
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: Chalermpol1980 ที่ ธันวาคม 18, 2014, 14:01:22
เจ้าของเท่านั้นที่ตอบได้

ผมอยู่ขอนแก่นล่าสุดขับ ขอนแก่น- ระนอง - ภูเก็ต - ตรัง - ขอนแก่น  สบายๆครับ รถพร้อม คนพร้อม
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: JBR1992 ที่ ธันวาคม 18, 2014, 14:27:41
1. ตรวจสภาพเช็คความพร้อม  อะไรที่คิดว่าเป็นจุดเปราะบาง และถึงเวลา ก็เปลี่ยนใหม่.
2. ร่างกายพร้อม

รับรอง ถึงไหนถึงกัน ....ปีที่แล้ว ผมเอา N42  ลุย ออกจากบางสะพาน ประจวบ - กทม - เชียงใหม่ - เชียงราย - แม่ฮ่องสอน -  ปาย ขากลับ   วิ่งวนซ้าย  มาเส้น แม่ฮ่องสอน - ลำพูน - ลำปาง - กทม - บางสะพาน
ชิว ๆ ครับ
 ""ชูสองนิ้ว::   ""ชูสองนิ้ว:: 
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: kosit_w ที่ ธันวาคม 18, 2014, 18:44:44
ที่ผ่านมาหลายท่านที่ต้องสไลด์กลับก็มีอยู่ไม่กี่ปัญหาเองครับ ถ้าทำพวกนั้นจบก็ไม่น่าห่วงครับ

เช่น
1.ปั๊มติ๊กพัง (หาติดรถไปสแปร์ซักตัว)
2.กรองเบนซินตัน (เปลี่ยนซะก่อนเดินทางถ้ายังไม่เคยเปลี่ยน)
3.หม้อน้ำแตก,หม้อพักแตก (ถ้านานแล้วยังไม่เคยเปลี่ยนก็จัดการเปลี่ยนซะ) เช็คระบบน้ำให้เรียบร้อย
4.ออยล์เกียร์, ออยล์เครื่อง (จัดการตามระยะ ที่สมควรจะทำ)

ส่วนอาการอื่นๆ ถ้าหากเจอส่วนใหญ่ก็ขับกลับกันได้นะครับ
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: exponential ที่ ธันวาคม 18, 2014, 18:56:43
ถ้ารถสมบูรณ์ ขึ้นดอยใหนๆ ก็ไม่มีปัญหาครับ
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: Aui-Eye ที่ ธันวาคม 18, 2014, 21:08:02
ขอบคุนสำหรับทุกคำแนะนำมากๆคับ :-X :-X
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: ยิ้มบางแสน ที่ ธันวาคม 18, 2014, 21:21:39
รถไหว ว่าแต่คนไหวป่าวอุ๋ย อิอิ
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: Pongsakda T. ที่ ธันวาคม 18, 2014, 22:03:37
       รถผม 318 m43tu  ไมล์ 39xxxx วิ่ง กทม-ดอยอ่างขาง-แม่อาย-เชียงราย-อุบล-กทม ชิลๆครับพี่ เช็คตามพี่ kosit ว่าหายห่วงครับ มีที่ตายเลยคือไดชาจเจ๊ง อุบล แค่นั้นครับ จากนั้นขับไกลกดเชคตลอดดด 555
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: pich ที่ ธันวาคม 18, 2014, 23:26:46
ต้นเดือนเพิ่งเอาe36 คอมแพคขึ้นดอยอินทนนท์มา ลงมามีคนสนใจซื้อต่อเลย :หึหึ:
เดี๋ยวปลายปีจะเอาe46 ขึ้นไปเชียงรายมั่งครับ
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: popdemonic ที่ ธันวาคม 19, 2014, 12:54:43
อุปกรณ์ที่มักจะเสียแบบclassic กับรถเก่าที่เสียแล้วจะไปต่อไม่ได้  จะมีอยู่ไม่กี่ตัวครับ จากประสบกาณ์
1.ปั๊มติ๊ก
2.คอยล์จุดระเบิด

ผมว่ามีแค่นี้เอง ที่มันจะพัง แล้วไปต่อไม่ค่อยไหว หัวเทียน สมมติเสียจริงๆ ชักปลั๊กออกวิ่งประคองๆหาหัวเทียน
ยังพอหาได้ครับ อย่างอื่นพวก ยางอะไหล่มันติดรถอยู่แล้วผมไม่นับครับ ปกติถ้ารถเก่าออกตจว . ผมมักแนะนำให้โยน
คอยล์ไว้ลูก ปั๊มติ๊กไว้ตัว  เคเบิ้ลไทล์5-6อัน ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์ชุดเล็ก เทปพันสายไฟ อย่างอื่นผมว่าไม่ค่อยจำเป็น
ฟิวส์ขาด ก็ถอดจากระบบอื่นมาใช้ได้เช่น ฟิวส์ไฟหน้าขาด ก็ถอดฟิวส์กระจกมองข้างมายืมใช้ก่อนได้ ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา อันนี้ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำคัญคือต้องมีสติ อย่าลนเวลารถเสียครับ
นั่งทำใจสักพักนึกสเต็ป  1 2 3 แล้วค่อยๆแก้ปัญหาครับ ผมนี้เจอประจำ ขับๆไปสายเบรคแตกยังเคยเลยครับ เบรคหายเลย วิธีแก้
ง่ายๆ หาคีมล๊อค หนีบปลายสายล้อที่รั่วหรืออุดมันแล้ววิ่งแบบมีเบรค3 ล้อไปเรื่อยๆประคองออกจากป่าได้ครับ
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: kosit_w ที่ ธันวาคม 19, 2014, 13:37:22
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
อุปกรณ์ที่มักจะเสียแบบclassic กับรถเก่าที่เสียแล้วจะไปต่อไม่ได้  จะมีอยู่ไม่กี่ตัวครับ จากประสบกาณ์
1.ปั๊มติ๊ก
2.คอยล์จุดระเบิด

ผมว่ามีแค่นี้เอง ที่มันจะพัง แล้วไปต่อไม่ค่อยไหว หัวเทียน สมมติเสียจริงๆ ชักปลั๊กออกวิ่งประคองๆหาหัวเทียน
ยังพอหาได้ครับ อย่างอื่นพวก ยางอะไหล่มันติดรถอยู่แล้วผมไม่นับครับ ปกติถ้ารถเก่าออกตจว . ผมมักแนะนำให้โยน
คอยล์ไว้ลูก ปั๊มติ๊กไว้ตัว  เคเบิ้ลไทล์5-6อัน ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์ชุดเล็ก เทปพันสายไฟ อย่างอื่นผมว่าไม่ค่อยจำเป็น
ฟิวส์ขาด ก็ถอดจากระบบอื่นมาใช้ได้เช่น ฟิวส์ไฟหน้าขาด ก็ถอดฟิวส์กระจกมองข้างมายืมใช้ก่อนได้ ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา อันนี้ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำคัญคือต้องมีสติ อย่าลนเวลารถเสียครับ
นั่งทำใจสักพักนึกสเต็ป  1 2 3 แล้วค่อยๆแก้ปัญหาครับ ผมนี้เจอประจำ ขับๆไปสายเบรคแตกยังเคยเลยครับ เบรคหายเลย วิธีแก้
ง่ายๆ หาคีมล๊อค หนีบปลายสายล้อที่รั่วหรืออุดมันแล้ววิ่งแบบมีเบรค3 ล้อไปเรื่อยๆประคองออกจากป่าได้ครับ

ที่พูดมาผมเห็นด้วยกับหลายๆอย่างนะครับ

แต่มีที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือ "ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา"

-คือถ้าท่อน้ำแตก เอาเทปพันสายไฟพันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัด อันนี้ผมว่าเอาไม่อยู่เพราะน้ำร้อนมากความดันสูงมาก (แต่ไม่เคยเจอท่อแตกเจอแต่หม้อพักแตก หม้อน้ำแตก หรือคอท่อขาด)
-หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป อันนี้ก็ไม่ใช่นะครับ หม้อน้ำร้อนมาก ไม่ใช่ถังน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้สบู่อุดกัน

อย่างอื่นพังยังพอทน แต่ระบบน้ำพังนี่อย่าล้อเล่นนะ พังทั้งเครื่องได้ซื้อเครื่องใหม่เอาจริงๆนะครับ
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: X-talize ที่ ธันวาคม 19, 2014, 18:33:10
เพิ่งกลับมาจากดอยช้าง ดอยแม่สลอง ตบท้ายด้วยดอยอ่างขางครับ 2300 กม. ถ้ารถสมบรูณ์ดี ไม่น่ามีปัญหาอะไร.  ""ชูสองนิ้ว::
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: exponential ที่ ธันวาคม 19, 2014, 20:33:11
น้ำมันเบรคเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ?  ถ้าเกิน 2 ปีแล้วก็อย่าลืมถ่ายทิ้ง ใส่ของใหม่ก่อนเอาไปขึ้นเขานะครับ

โชคดี .... เที่ยวให้สนุกครับ  ""ชูสองนิ้ว::
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: popdemonic ที่ ธันวาคม 19, 2014, 21:08:57
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
อุปกรณ์ที่มักจะเสียแบบclassic กับรถเก่าที่เสียแล้วจะไปต่อไม่ได้  จะมีอยู่ไม่กี่ตัวครับ จากประสบกาณ์
1.ปั๊มติ๊ก
2.คอยล์จุดระเบิด

ผมว่ามีแค่นี้เอง ที่มันจะพัง แล้วไปต่อไม่ค่อยไหว หัวเทียน สมมติเสียจริงๆ ชักปลั๊กออกวิ่งประคองๆหาหัวเทียน
ยังพอหาได้ครับ อย่างอื่นพวก ยางอะไหล่มันติดรถอยู่แล้วผมไม่นับครับ ปกติถ้ารถเก่าออกตจว . ผมมักแนะนำให้โยน
คอยล์ไว้ลูก ปั๊มติ๊กไว้ตัว  เคเบิ้ลไทล์5-6อัน ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์ชุดเล็ก เทปพันสายไฟ อย่างอื่นผมว่าไม่ค่อยจำเป็น
ฟิวส์ขาด ก็ถอดจากระบบอื่นมาใช้ได้เช่น ฟิวส์ไฟหน้าขาด ก็ถอดฟิวส์กระจกมองข้างมายืมใช้ก่อนได้ ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา อันนี้ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำคัญคือต้องมีสติ อย่าลนเวลารถเสียครับ
นั่งทำใจสักพักนึกสเต็ป  1 2 3 แล้วค่อยๆแก้ปัญหาครับ ผมนี้เจอประจำ ขับๆไปสายเบรคแตกยังเคยเลยครับ เบรคหายเลย วิธีแก้
ง่ายๆ หาคีมล๊อค หนีบปลายสายล้อที่รั่วหรืออุดมันแล้ววิ่งแบบมีเบรค3 ล้อไปเรื่อยๆประคองออกจากป่าได้ครับ

ที่พูดมาผมเห็นด้วยกับหลายๆอย่างนะครับ

แต่มีที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือ "ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา"

-คือถ้าท่อน้ำแตก เอาเทปพันสายไฟพันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัด อันนี้ผมว่าเอาไม่อยู่เพราะน้ำร้อนมากความดันสูงมาก (แต่ไม่เคยเจอท่อแตกเจอแต่หม้อพักแตก หม้อน้ำแตก หรือคอท่อขาด)
-หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป อันนี้ก็ไม่ใช่นะครับ หม้อน้ำร้อนมาก ไม่ใช่ถังน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้สบู่อุดกัน

อย่างอื่นพังยังพอทน แต่ระบบน้ำพังนี่อย่าล้อเล่นนะ พังทั้งเครื่องได้ซื้อเครื่องใหม่เอาจริงๆนะครับ

เป็นวิธีประคองรถไปเรื่อยๆครับ พวกนี้มันช่วยในภาวะฉุกเฉินครับ ให้ประคองไปได้ แรงดันในระบบน้ำประมาณ1บาร์นิดๆครับ เกินจากนั้น relief valve ตรงฝาถังจะระบายออกครับ แรงดันบาร์กว่าๆ เทปพันสายไฟเอาอยู่สบายๆครับ โดยมากจะใช้กับรอยปริแตกของท่อยาง พันไว้ซ้อนกันหลายๆทบ มันจะเอาอยู่ สมมติว่ามันปริแตกรั่วๆเลย อย่างเลวร้ายมันจะรั่วออกแค่หยดๆซึมๆครับ  สมัยก่อนบางทีหาของไม่ได้ยางในจักรยานพันรอบแล้วเอาเชือกมัดไว้ครับเวลาเราขับรถ รถเคลื่อนตัวแรงประทะมันตีหน้าหม้อน้ำ แรงดันมันจะน้อยกว่าเวลาเราขับมาร้อนๆแล้วจอดครับ ความร้อนสะสมมันสูง
ส่วนสบู่ มันเป็นไขครับ ลองเสิร์ชดูครับเป็นวิธีแก้ปัญหาหม้อน้ำรั่วกลางทางได้ครับ พวกนี้จะแก้ปัญหาพวกแผงรังผึ้งเป็นตามด ยกตัวอย่างเช่น
หม้อน้ำเก่าผุเป็นสนิม หรือวิ่งๆแล้วบังเอิญโดนหินดีดใส่ ผ่านแผงคอยล์ร้อน(condenser) เข้ามาที่รังผึ้งของหม้อน้ำครับ ที่ว่ามาคือเป็นการประคองรถในกรณีที่มันฉุกเฉนๆจริงๆเช่นไปอยู่กลางป่ากลางดง แบบนี้อันตรายครับ พวกนี้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ใช้กันมาหลาย10ปีแล้วครับ ก็เอาตัวรอดกันมาได้ครับ ใครจะเชื่อว่าแม้กระทั่งผ้าก๊อชพันแผลยังซ่อมรถได้เลยครับเรื่องจริง พวกรถเทอร์โบบางทีท่ออากาศปริแตกกลางทาง ไม่รู้จะทำยังไง แวะหาซื้อซิลิโคนอเนกประสงค์ เอาผ้าก๊อซพันแล้วซิลิโคนโปะ ด้วยตัวซิลิโคนมีความยืดหยุ่นสูง ส่วนผ้าก๊อซเองมีใยถี่ๆๆ เหมือนเป็นโครงreinforced ไปในตัวและให้ซิลิโคนมันจับอยู่ รอพอมันแห้งก็ขับไปต่อได้แล้วครับ พวกนี้มันเกิดจากความบังเอิญ บวกกับเหตุการณ์คับขัน มันต้องหาอะไรใกล้มือ
ขัดตาทัพไปก่อนครับ  หรืออย่างที่บอกครับบางทีเบรคแตก สายอ่อนเบรคขาด ไม่มีคีมล๊อคหาสกรู หรือตะปูอุดปลายท่อที่แตก แล้วใช้เข็มขัดรัดท่อ,เคเบิ้ลไทร์หลายๆเส้นรัดที่ปลายก็เอาอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: tukka ที่ ธันวาคม 24, 2014, 09:22:33
คำแนะนำของคุณในทุกๆข้อผมเคยเห็นพี่ผมทำและแก้ไขรถในเวลาฉุกเฉินมาแล้ว มันใช้ได้จริงๆ(ประสบการณ์เท่านั้นที่จะทำเรื่องพวกนี้ได้)  :-X :-X :-X :-X
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: Oak800 ที่ ธันวาคม 24, 2014, 21:01:56
 ::2thmb:: ::2thmb::
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: smcn333 ที่ มกราคม 12, 2015, 23:46:53
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
อุปกรณ์ที่มักจะเสียแบบclassic กับรถเก่าที่เสียแล้วจะไปต่อไม่ได้  จะมีอยู่ไม่กี่ตัวครับ จากประสบกาณ์
1.ปั๊มติ๊ก
2.คอยล์จุดระเบิด

ผมว่ามีแค่นี้เอง ที่มันจะพัง แล้วไปต่อไม่ค่อยไหว หัวเทียน สมมติเสียจริงๆ ชักปลั๊กออกวิ่งประคองๆหาหัวเทียน
ยังพอหาได้ครับ อย่างอื่นพวก ยางอะไหล่มันติดรถอยู่แล้วผมไม่นับครับ ปกติถ้ารถเก่าออกตจว . ผมมักแนะนำให้โยน
คอยล์ไว้ลูก ปั๊มติ๊กไว้ตัว  เคเบิ้ลไทล์5-6อัน ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์ชุดเล็ก เทปพันสายไฟ อย่างอื่นผมว่าไม่ค่อยจำเป็น
ฟิวส์ขาด ก็ถอดจากระบบอื่นมาใช้ได้เช่น ฟิวส์ไฟหน้าขาด ก็ถอดฟิวส์กระจกมองข้างมายืมใช้ก่อนได้ ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา อันนี้ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำคัญคือต้องมีสติ อย่าลนเวลารถเสียครับ
นั่งทำใจสักพักนึกสเต็ป  1 2 3 แล้วค่อยๆแก้ปัญหาครับ ผมนี้เจอประจำ ขับๆไปสายเบรคแตกยังเคยเลยครับ เบรคหายเลย วิธีแก้
ง่ายๆ หาคีมล๊อค หนีบปลายสายล้อที่รั่วหรืออุดมันแล้ววิ่งแบบมีเบรค3 ล้อไปเรื่อยๆประคองออกจากป่าได้ครับ

ที่พูดมาผมเห็นด้วยกับหลายๆอย่างนะครับ

แต่มีที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือ "ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา"

-คือถ้าท่อน้ำแตก เอาเทปพันสายไฟพันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัด อันนี้ผมว่าเอาไม่อยู่เพราะน้ำร้อนมากความดันสูงมาก (แต่ไม่เคยเจอท่อแตกเจอแต่หม้อพักแตก หม้อน้ำแตก หรือคอท่อขาด)
-หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป อันนี้ก็ไม่ใช่นะครับ หม้อน้ำร้อนมาก ไม่ใช่ถังน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้สบู่อุดกัน

อย่างอื่นพังยังพอทน แต่ระบบน้ำพังนี่อย่าล้อเล่นนะ พังทั้งเครื่องได้ซื้อเครื่องใหม่เอาจริงๆนะครับ

เป็นวิธีประคองรถไปเรื่อยๆครับ พวกนี้มันช่วยในภาวะฉุกเฉินครับ ให้ประคองไปได้ แรงดันในระบบน้ำประมาณ1บาร์นิดๆครับ เกินจากนั้น relief valve ตรงฝาถังจะระบายออกครับ แรงดันบาร์กว่าๆ เทปพันสายไฟเอาอยู่สบายๆครับ โดยมากจะใช้กับรอยปริแตกของท่อยาง พันไว้ซ้อนกันหลายๆทบ มันจะเอาอยู่ สมมติว่ามันปริแตกรั่วๆเลย อย่างเลวร้ายมันจะรั่วออกแค่หยดๆซึมๆครับ  สมัยก่อนบางทีหาของไม่ได้ยางในจักรยานพันรอบแล้วเอาเชือกมัดไว้ครับเวลาเราขับรถ รถเคลื่อนตัวแรงประทะมันตีหน้าหม้อน้ำ แรงดันมันจะน้อยกว่าเวลาเราขับมาร้อนๆแล้วจอดครับ ความร้อนสะสมมันสูง
ส่วนสบู่ มันเป็นไขครับ ลองเสิร์ชดูครับเป็นวิธีแก้ปัญหาหม้อน้ำรั่วกลางทางได้ครับ พวกนี้จะแก้ปัญหาพวกแผงรังผึ้งเป็นตามด ยกตัวอย่างเช่น
หม้อน้ำเก่าผุเป็นสนิม หรือวิ่งๆแล้วบังเอิญโดนหินดีดใส่ ผ่านแผงคอยล์ร้อน(condenser) เข้ามาที่รังผึ้งของหม้อน้ำครับ ที่ว่ามาคือเป็นการประคองรถในกรณีที่มันฉุกเฉนๆจริงๆเช่นไปอยู่กลางป่ากลางดง แบบนี้อันตรายครับ พวกนี้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ใช้กันมาหลาย10ปีแล้วครับ ก็เอาตัวรอดกันมาได้ครับ ใครจะเชื่อว่าแม้กระทั่งผ้าก๊อชพันแผลยังซ่อมรถได้เลยครับเรื่องจริง พวกรถเทอร์โบบางทีท่ออากาศปริแตกกลางทาง ไม่รู้จะทำยังไง แวะหาซื้อซิลิโคนอเนกประสงค์ เอาผ้าก๊อซพันแล้วซิลิโคนโปะ ด้วยตัวซิลิโคนมีความยืดหยุ่นสูง ส่วนผ้าก๊อซเองมีใยถี่ๆๆ เหมือนเป็นโครงreinforced ไปในตัวและให้ซิลิโคนมันจับอยู่ รอพอมันแห้งก็ขับไปต่อได้แล้วครับ พวกนี้มันเกิดจากความบังเอิญ บวกกับเหตุการณ์คับขัน มันต้องหาอะไรใกล้มือ
ขัดตาทัพไปก่อนครับ  หรืออย่างที่บอกครับบางทีเบรคแตก สายอ่อนเบรคขาด ไม่มีคีมล๊อคหาสกรู หรือตะปูอุดปลายท่อที่แตก แล้วใช้เข็มขัดรัดท่อ,เคเบิ้ลไทร์หลายๆเส้นรัดที่ปลายก็เอาอยู่ครับ

ชอบมากครับคุณป๊อป ขอคาราวะ  :-X
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ มกราคม 13, 2015, 10:03:07
สรุปเจ้าของกระทู้ ไปแล้วกลับมาปกติดีไหมครับ ช่วยรายงานผลต่อให้ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: Aui-Eye ที่ มกราคม 13, 2015, 21:47:57
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
สรุปเจ้าของกระทู้ ไปแล้วกลับมาปกติดีไหมครับ ช่วยรายงานผลต่อให้ด้วยครับ
ลืมไปเรยนะคับ สรุปผ่านฉลุยคับ ขึ้นไปถึงยอดดอยสบายๆเรยคับ แล้วก้ต่อด้วยเขาค้อ ทริปนี้ 2000 กิโล สบายๆเรยครับ^^
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ มกราคม 14, 2015, 07:39:23
 ::2thmb::
หัวข้อ: Re: 325i ปี 2004 vs อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนน ไหวมั้ยครับ แอบหวั่นๆได้ขึ้นรถสไลด์
เริ่มหัวข้อโดย: pu_2times ที่ มกราคม 14, 2015, 10:51:43
 ;) ;) ;)