BMW E46 Thailand
พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => พูดคุย สนทนาทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: Aui-Eye ที่ ธันวาคม 18, 2014, 12:53:51
-
O0 O0 O0
-
ทำไมถึงคิดว่าไม่ไหวละครับ
-
เจ้าของเท่านั้นที่ตอบได้
ผมอยู่ขอนแก่นล่าสุดขับ ขอนแก่น- ระนอง - ภูเก็ต - ตรัง - ขอนแก่น สบายๆครับ รถพร้อม คนพร้อม
-
1. ตรวจสภาพเช็คความพร้อม อะไรที่คิดว่าเป็นจุดเปราะบาง และถึงเวลา ก็เปลี่ยนใหม่.
2. ร่างกายพร้อม
รับรอง ถึงไหนถึงกัน ....ปีที่แล้ว ผมเอา N42 ลุย ออกจากบางสะพาน ประจวบ - กทม - เชียงใหม่ - เชียงราย - แม่ฮ่องสอน - ปาย ขากลับ วิ่งวนซ้าย มาเส้น แม่ฮ่องสอน - ลำพูน - ลำปาง - กทม - บางสะพาน
ชิว ๆ ครับ
""ชูสองนิ้ว:: ""ชูสองนิ้ว::
-
ที่ผ่านมาหลายท่านที่ต้องสไลด์กลับก็มีอยู่ไม่กี่ปัญหาเองครับ ถ้าทำพวกนั้นจบก็ไม่น่าห่วงครับ
เช่น
1.ปั๊มติ๊กพัง (หาติดรถไปสแปร์ซักตัว)
2.กรองเบนซินตัน (เปลี่ยนซะก่อนเดินทางถ้ายังไม่เคยเปลี่ยน)
3.หม้อน้ำแตก,หม้อพักแตก (ถ้านานแล้วยังไม่เคยเปลี่ยนก็จัดการเปลี่ยนซะ) เช็คระบบน้ำให้เรียบร้อย
4.ออยล์เกียร์, ออยล์เครื่อง (จัดการตามระยะ ที่สมควรจะทำ)
ส่วนอาการอื่นๆ ถ้าหากเจอส่วนใหญ่ก็ขับกลับกันได้นะครับ
-
ถ้ารถสมบูรณ์ ขึ้นดอยใหนๆ ก็ไม่มีปัญหาครับ
-
ขอบคุนสำหรับทุกคำแนะนำมากๆคับ :-X :-X
-
รถไหว ว่าแต่คนไหวป่าวอุ๋ย อิอิ
-
รถผม 318 m43tu ไมล์ 39xxxx วิ่ง กทม-ดอยอ่างขาง-แม่อาย-เชียงราย-อุบล-กทม ชิลๆครับพี่ เช็คตามพี่ kosit ว่าหายห่วงครับ มีที่ตายเลยคือไดชาจเจ๊ง อุบล แค่นั้นครับ จากนั้นขับไกลกดเชคตลอดดด 555
-
ต้นเดือนเพิ่งเอาe36 คอมแพคขึ้นดอยอินทนนท์มา ลงมามีคนสนใจซื้อต่อเลย :หึหึ:
เดี๋ยวปลายปีจะเอาe46 ขึ้นไปเชียงรายมั่งครับ
-
อุปกรณ์ที่มักจะเสียแบบclassic กับรถเก่าที่เสียแล้วจะไปต่อไม่ได้ จะมีอยู่ไม่กี่ตัวครับ จากประสบกาณ์
1.ปั๊มติ๊ก
2.คอยล์จุดระเบิด
ผมว่ามีแค่นี้เอง ที่มันจะพัง แล้วไปต่อไม่ค่อยไหว หัวเทียน สมมติเสียจริงๆ ชักปลั๊กออกวิ่งประคองๆหาหัวเทียน
ยังพอหาได้ครับ อย่างอื่นพวก ยางอะไหล่มันติดรถอยู่แล้วผมไม่นับครับ ปกติถ้ารถเก่าออกตจว . ผมมักแนะนำให้โยน
คอยล์ไว้ลูก ปั๊มติ๊กไว้ตัว เคเบิ้ลไทล์5-6อัน ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์ชุดเล็ก เทปพันสายไฟ อย่างอื่นผมว่าไม่ค่อยจำเป็น
ฟิวส์ขาด ก็ถอดจากระบบอื่นมาใช้ได้เช่น ฟิวส์ไฟหน้าขาด ก็ถอดฟิวส์กระจกมองข้างมายืมใช้ก่อนได้ ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา อันนี้ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำคัญคือต้องมีสติ อย่าลนเวลารถเสียครับ
นั่งทำใจสักพักนึกสเต็ป 1 2 3 แล้วค่อยๆแก้ปัญหาครับ ผมนี้เจอประจำ ขับๆไปสายเบรคแตกยังเคยเลยครับ เบรคหายเลย วิธีแก้
ง่ายๆ หาคีมล๊อค หนีบปลายสายล้อที่รั่วหรืออุดมันแล้ววิ่งแบบมีเบรค3 ล้อไปเรื่อยๆประคองออกจากป่าได้ครับ
-
อุปกรณ์ที่มักจะเสียแบบclassic กับรถเก่าที่เสียแล้วจะไปต่อไม่ได้ จะมีอยู่ไม่กี่ตัวครับ จากประสบกาณ์
1.ปั๊มติ๊ก
2.คอยล์จุดระเบิด
ผมว่ามีแค่นี้เอง ที่มันจะพัง แล้วไปต่อไม่ค่อยไหว หัวเทียน สมมติเสียจริงๆ ชักปลั๊กออกวิ่งประคองๆหาหัวเทียน
ยังพอหาได้ครับ อย่างอื่นพวก ยางอะไหล่มันติดรถอยู่แล้วผมไม่นับครับ ปกติถ้ารถเก่าออกตจว . ผมมักแนะนำให้โยน
คอยล์ไว้ลูก ปั๊มติ๊กไว้ตัว เคเบิ้ลไทล์5-6อัน ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์ชุดเล็ก เทปพันสายไฟ อย่างอื่นผมว่าไม่ค่อยจำเป็น
ฟิวส์ขาด ก็ถอดจากระบบอื่นมาใช้ได้เช่น ฟิวส์ไฟหน้าขาด ก็ถอดฟิวส์กระจกมองข้างมายืมใช้ก่อนได้ ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา อันนี้ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำคัญคือต้องมีสติ อย่าลนเวลารถเสียครับ
นั่งทำใจสักพักนึกสเต็ป 1 2 3 แล้วค่อยๆแก้ปัญหาครับ ผมนี้เจอประจำ ขับๆไปสายเบรคแตกยังเคยเลยครับ เบรคหายเลย วิธีแก้
ง่ายๆ หาคีมล๊อค หนีบปลายสายล้อที่รั่วหรืออุดมันแล้ววิ่งแบบมีเบรค3 ล้อไปเรื่อยๆประคองออกจากป่าได้ครับ
ที่พูดมาผมเห็นด้วยกับหลายๆอย่างนะครับ
แต่มีที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือ "ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา"
-คือถ้าท่อน้ำแตก เอาเทปพันสายไฟพันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัด อันนี้ผมว่าเอาไม่อยู่เพราะน้ำร้อนมากความดันสูงมาก (แต่ไม่เคยเจอท่อแตกเจอแต่หม้อพักแตก หม้อน้ำแตก หรือคอท่อขาด)
-หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป อันนี้ก็ไม่ใช่นะครับ หม้อน้ำร้อนมาก ไม่ใช่ถังน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้สบู่อุดกัน
อย่างอื่นพังยังพอทน แต่ระบบน้ำพังนี่อย่าล้อเล่นนะ พังทั้งเครื่องได้ซื้อเครื่องใหม่เอาจริงๆนะครับ
-
เพิ่งกลับมาจากดอยช้าง ดอยแม่สลอง ตบท้ายด้วยดอยอ่างขางครับ 2300 กม. ถ้ารถสมบรูณ์ดี ไม่น่ามีปัญหาอะไร. ""ชูสองนิ้ว::
-
น้ำมันเบรคเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ? ถ้าเกิน 2 ปีแล้วก็อย่าลืมถ่ายทิ้ง ใส่ของใหม่ก่อนเอาไปขึ้นเขานะครับ
โชคดี .... เที่ยวให้สนุกครับ ""ชูสองนิ้ว::
-
อุปกรณ์ที่มักจะเสียแบบclassic กับรถเก่าที่เสียแล้วจะไปต่อไม่ได้ จะมีอยู่ไม่กี่ตัวครับ จากประสบกาณ์
1.ปั๊มติ๊ก
2.คอยล์จุดระเบิด
ผมว่ามีแค่นี้เอง ที่มันจะพัง แล้วไปต่อไม่ค่อยไหว หัวเทียน สมมติเสียจริงๆ ชักปลั๊กออกวิ่งประคองๆหาหัวเทียน
ยังพอหาได้ครับ อย่างอื่นพวก ยางอะไหล่มันติดรถอยู่แล้วผมไม่นับครับ ปกติถ้ารถเก่าออกตจว . ผมมักแนะนำให้โยน
คอยล์ไว้ลูก ปั๊มติ๊กไว้ตัว เคเบิ้ลไทล์5-6อัน ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์ชุดเล็ก เทปพันสายไฟ อย่างอื่นผมว่าไม่ค่อยจำเป็น
ฟิวส์ขาด ก็ถอดจากระบบอื่นมาใช้ได้เช่น ฟิวส์ไฟหน้าขาด ก็ถอดฟิวส์กระจกมองข้างมายืมใช้ก่อนได้ ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา อันนี้ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำคัญคือต้องมีสติ อย่าลนเวลารถเสียครับ
นั่งทำใจสักพักนึกสเต็ป 1 2 3 แล้วค่อยๆแก้ปัญหาครับ ผมนี้เจอประจำ ขับๆไปสายเบรคแตกยังเคยเลยครับ เบรคหายเลย วิธีแก้
ง่ายๆ หาคีมล๊อค หนีบปลายสายล้อที่รั่วหรืออุดมันแล้ววิ่งแบบมีเบรค3 ล้อไปเรื่อยๆประคองออกจากป่าได้ครับ
ที่พูดมาผมเห็นด้วยกับหลายๆอย่างนะครับ
แต่มีที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือ "ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา"
-คือถ้าท่อน้ำแตก เอาเทปพันสายไฟพันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัด อันนี้ผมว่าเอาไม่อยู่เพราะน้ำร้อนมากความดันสูงมาก (แต่ไม่เคยเจอท่อแตกเจอแต่หม้อพักแตก หม้อน้ำแตก หรือคอท่อขาด)
-หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป อันนี้ก็ไม่ใช่นะครับ หม้อน้ำร้อนมาก ไม่ใช่ถังน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้สบู่อุดกัน
อย่างอื่นพังยังพอทน แต่ระบบน้ำพังนี่อย่าล้อเล่นนะ พังทั้งเครื่องได้ซื้อเครื่องใหม่เอาจริงๆนะครับ
เป็นวิธีประคองรถไปเรื่อยๆครับ พวกนี้มันช่วยในภาวะฉุกเฉินครับ ให้ประคองไปได้ แรงดันในระบบน้ำประมาณ1บาร์นิดๆครับ เกินจากนั้น relief valve ตรงฝาถังจะระบายออกครับ แรงดันบาร์กว่าๆ เทปพันสายไฟเอาอยู่สบายๆครับ โดยมากจะใช้กับรอยปริแตกของท่อยาง พันไว้ซ้อนกันหลายๆทบ มันจะเอาอยู่ สมมติว่ามันปริแตกรั่วๆเลย อย่างเลวร้ายมันจะรั่วออกแค่หยดๆซึมๆครับ สมัยก่อนบางทีหาของไม่ได้ยางในจักรยานพันรอบแล้วเอาเชือกมัดไว้ครับเวลาเราขับรถ รถเคลื่อนตัวแรงประทะมันตีหน้าหม้อน้ำ แรงดันมันจะน้อยกว่าเวลาเราขับมาร้อนๆแล้วจอดครับ ความร้อนสะสมมันสูง
ส่วนสบู่ มันเป็นไขครับ ลองเสิร์ชดูครับเป็นวิธีแก้ปัญหาหม้อน้ำรั่วกลางทางได้ครับ พวกนี้จะแก้ปัญหาพวกแผงรังผึ้งเป็นตามด ยกตัวอย่างเช่น
หม้อน้ำเก่าผุเป็นสนิม หรือวิ่งๆแล้วบังเอิญโดนหินดีดใส่ ผ่านแผงคอยล์ร้อน(condenser) เข้ามาที่รังผึ้งของหม้อน้ำครับ ที่ว่ามาคือเป็นการประคองรถในกรณีที่มันฉุกเฉนๆจริงๆเช่นไปอยู่กลางป่ากลางดง แบบนี้อันตรายครับ พวกนี้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ใช้กันมาหลาย10ปีแล้วครับ ก็เอาตัวรอดกันมาได้ครับ ใครจะเชื่อว่าแม้กระทั่งผ้าก๊อชพันแผลยังซ่อมรถได้เลยครับเรื่องจริง พวกรถเทอร์โบบางทีท่ออากาศปริแตกกลางทาง ไม่รู้จะทำยังไง แวะหาซื้อซิลิโคนอเนกประสงค์ เอาผ้าก๊อซพันแล้วซิลิโคนโปะ ด้วยตัวซิลิโคนมีความยืดหยุ่นสูง ส่วนผ้าก๊อซเองมีใยถี่ๆๆ เหมือนเป็นโครงreinforced ไปในตัวและให้ซิลิโคนมันจับอยู่ รอพอมันแห้งก็ขับไปต่อได้แล้วครับ พวกนี้มันเกิดจากความบังเอิญ บวกกับเหตุการณ์คับขัน มันต้องหาอะไรใกล้มือ
ขัดตาทัพไปก่อนครับ หรืออย่างที่บอกครับบางทีเบรคแตก สายอ่อนเบรคขาด ไม่มีคีมล๊อคหาสกรู หรือตะปูอุดปลายท่อที่แตก แล้วใช้เข็มขัดรัดท่อ,เคเบิ้ลไทร์หลายๆเส้นรัดที่ปลายก็เอาอยู่ครับ
-
คำแนะนำของคุณในทุกๆข้อผมเคยเห็นพี่ผมทำและแก้ไขรถในเวลาฉุกเฉินมาแล้ว มันใช้ได้จริงๆ(ประสบการณ์เท่านั้นที่จะทำเรื่องพวกนี้ได้) :-X :-X :-X :-X
-
::2thmb:: ::2thmb::
-
อุปกรณ์ที่มักจะเสียแบบclassic กับรถเก่าที่เสียแล้วจะไปต่อไม่ได้ จะมีอยู่ไม่กี่ตัวครับ จากประสบกาณ์
1.ปั๊มติ๊ก
2.คอยล์จุดระเบิด
ผมว่ามีแค่นี้เอง ที่มันจะพัง แล้วไปต่อไม่ค่อยไหว หัวเทียน สมมติเสียจริงๆ ชักปลั๊กออกวิ่งประคองๆหาหัวเทียน
ยังพอหาได้ครับ อย่างอื่นพวก ยางอะไหล่มันติดรถอยู่แล้วผมไม่นับครับ ปกติถ้ารถเก่าออกตจว . ผมมักแนะนำให้โยน
คอยล์ไว้ลูก ปั๊มติ๊กไว้ตัว เคเบิ้ลไทล์5-6อัน ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์ชุดเล็ก เทปพันสายไฟ อย่างอื่นผมว่าไม่ค่อยจำเป็น
ฟิวส์ขาด ก็ถอดจากระบบอื่นมาใช้ได้เช่น ฟิวส์ไฟหน้าขาด ก็ถอดฟิวส์กระจกมองข้างมายืมใช้ก่อนได้ ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา อันนี้ต้องแล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำคัญคือต้องมีสติ อย่าลนเวลารถเสียครับ
นั่งทำใจสักพักนึกสเต็ป 1 2 3 แล้วค่อยๆแก้ปัญหาครับ ผมนี้เจอประจำ ขับๆไปสายเบรคแตกยังเคยเลยครับ เบรคหายเลย วิธีแก้
ง่ายๆ หาคีมล๊อค หนีบปลายสายล้อที่รั่วหรืออุดมันแล้ววิ่งแบบมีเบรค3 ล้อไปเรื่อยๆประคองออกจากป่าได้ครับ
ที่พูดมาผมเห็นด้วยกับหลายๆอย่างนะครับ
แต่มีที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือ "ท่อน้ำแตก ก็มีเทปพันสายไฟ
พันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัดกันปลายเทปมันเปิดก็ประคองได้ หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป เจอร้านอะไหล่ก็ซื้อซีเมนต์เหล็ก
หรือเรียกกาว2หลอด ปั้นๆผสมแปะเอา"
-คือถ้าท่อน้ำแตก เอาเทปพันสายไฟพันๆๆๆแล้วเคเบิ้ลไทร์มัด อันนี้ผมว่าเอาไม่อยู่เพราะน้ำร้อนมากความดันสูงมาก (แต่ไม่เคยเจอท่อแตกเจอแต่หม้อพักแตก หม้อน้ำแตก หรือคอท่อขาด)
-หม้อน้ำรั่ว หาซื้อสบู่แล้วเหลาๆๆๆอุดเข้าไป อันนี้ก็ไม่ใช่นะครับ หม้อน้ำร้อนมาก ไม่ใช่ถังน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้สบู่อุดกัน
อย่างอื่นพังยังพอทน แต่ระบบน้ำพังนี่อย่าล้อเล่นนะ พังทั้งเครื่องได้ซื้อเครื่องใหม่เอาจริงๆนะครับ
เป็นวิธีประคองรถไปเรื่อยๆครับ พวกนี้มันช่วยในภาวะฉุกเฉินครับ ให้ประคองไปได้ แรงดันในระบบน้ำประมาณ1บาร์นิดๆครับ เกินจากนั้น relief valve ตรงฝาถังจะระบายออกครับ แรงดันบาร์กว่าๆ เทปพันสายไฟเอาอยู่สบายๆครับ โดยมากจะใช้กับรอยปริแตกของท่อยาง พันไว้ซ้อนกันหลายๆทบ มันจะเอาอยู่ สมมติว่ามันปริแตกรั่วๆเลย อย่างเลวร้ายมันจะรั่วออกแค่หยดๆซึมๆครับ สมัยก่อนบางทีหาของไม่ได้ยางในจักรยานพันรอบแล้วเอาเชือกมัดไว้ครับเวลาเราขับรถ รถเคลื่อนตัวแรงประทะมันตีหน้าหม้อน้ำ แรงดันมันจะน้อยกว่าเวลาเราขับมาร้อนๆแล้วจอดครับ ความร้อนสะสมมันสูง
ส่วนสบู่ มันเป็นไขครับ ลองเสิร์ชดูครับเป็นวิธีแก้ปัญหาหม้อน้ำรั่วกลางทางได้ครับ พวกนี้จะแก้ปัญหาพวกแผงรังผึ้งเป็นตามด ยกตัวอย่างเช่น
หม้อน้ำเก่าผุเป็นสนิม หรือวิ่งๆแล้วบังเอิญโดนหินดีดใส่ ผ่านแผงคอยล์ร้อน(condenser) เข้ามาที่รังผึ้งของหม้อน้ำครับ ที่ว่ามาคือเป็นการประคองรถในกรณีที่มันฉุกเฉนๆจริงๆเช่นไปอยู่กลางป่ากลางดง แบบนี้อันตรายครับ พวกนี้เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ใช้กันมาหลาย10ปีแล้วครับ ก็เอาตัวรอดกันมาได้ครับ ใครจะเชื่อว่าแม้กระทั่งผ้าก๊อชพันแผลยังซ่อมรถได้เลยครับเรื่องจริง พวกรถเทอร์โบบางทีท่ออากาศปริแตกกลางทาง ไม่รู้จะทำยังไง แวะหาซื้อซิลิโคนอเนกประสงค์ เอาผ้าก๊อซพันแล้วซิลิโคนโปะ ด้วยตัวซิลิโคนมีความยืดหยุ่นสูง ส่วนผ้าก๊อซเองมีใยถี่ๆๆ เหมือนเป็นโครงreinforced ไปในตัวและให้ซิลิโคนมันจับอยู่ รอพอมันแห้งก็ขับไปต่อได้แล้วครับ พวกนี้มันเกิดจากความบังเอิญ บวกกับเหตุการณ์คับขัน มันต้องหาอะไรใกล้มือ
ขัดตาทัพไปก่อนครับ หรืออย่างที่บอกครับบางทีเบรคแตก สายอ่อนเบรคขาด ไม่มีคีมล๊อคหาสกรู หรือตะปูอุดปลายท่อที่แตก แล้วใช้เข็มขัดรัดท่อ,เคเบิ้ลไทร์หลายๆเส้นรัดที่ปลายก็เอาอยู่ครับ
ชอบมากครับคุณป๊อป ขอคาราวะ :-X
-
สรุปเจ้าของกระทู้ ไปแล้วกลับมาปกติดีไหมครับ ช่วยรายงานผลต่อให้ด้วยครับ
-
สรุปเจ้าของกระทู้ ไปแล้วกลับมาปกติดีไหมครับ ช่วยรายงานผลต่อให้ด้วยครับ
ลืมไปเรยนะคับ สรุปผ่านฉลุยคับ ขึ้นไปถึงยอดดอยสบายๆเรยคับ แล้วก้ต่อด้วยเขาค้อ ทริปนี้ 2000 กิโล สบายๆเรยครับ^^
-
::2thmb::
-
;) ;) ;)