ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เติมแค่ลูกลอยลอยขึ้นมาสุดก็พอครับ ไม่ต้องเติมจนเต็มครับ เพราะแรงดันในระบบสูงมากมันจะดันน้ำให้หายและอาจทำให้ระบบรั่วง่ายกว่าปกติและที่สำคัญทุกครั้งที่เติมน้ำต้องเปิดสกรูไล่อากาศทุกครั้งครับ
ดูจากลูกลอยแล้ว ประมาณนี้ครับ
อ้างจาก: "oon_resist"เติมแค่ลูกลอยลอยขึ้นมาสุดก็พอครับ ไม่ต้องเติมจนเต็มครับ เพราะแรงดันในระบบสูงมากมันจะดันน้ำให้หายและอาจทำให้ระบบรั่วง่ายกว่าปกติและที่สำคัญทุกครั้งที่เติมน้ำต้องเปิดสกรูไล่อากาศทุกครั้งครับยืนยันอีกคนครับว่าเติมน้ำทุกครั้งต้องไล่ลม อาการนี้เส้นผมบังภูเขาจริงๆ เพราะผมเจอมากับตัว จนตอนนี้เรียนรู้การไล่ลมจนชำนาญเลย ฮ่าๆๆๆใครจะว่ายังไงไม่รู้นะ แต่ผมว่าบางครั้งไล่ลมทีเดียวไม่จบด้วย ต้องค่อยๆ ไล่ 2-3 ครั้ง รถผมเติมน้ำ ไล่ลม 2 ครั้ง ตอนนี้อาการน้ำหายหมดเป็นปลิดทิ้ง จนมานั่งคิดว่าที่ทำไปเกี่ยวกับระบบน้ำหายเนี่ยเพราะเราลืมสาเหตุเส้นผมบังภูเขานี่ไปหรือเปล่า (เสียไปตั้ง 3 หมื่น) เอิกๆๆๆ :swt
การไล่ลมของผม (ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่านะ แต่ผมทำแบบนี้น้ำในหม้อน้ำผมไม่หาย)1. เปิดฝาหม้อพักน้ำออกมา ดูลูกลอยว่าจมไปแค่ไหน2. เติมน้ำให้ลูกลอยโด่งขึ้นมาในระดับปกติ3. หมุนสกรูไล่ลม ซึ่งมันจะอยู่ใกล้ๆ ฝาหม้อน้ำนั้นล่ะครับ หมุนออกมาวางไว้ข้างนอกเลย (ระวังอย่าให้สกรูนี้หล่นเข้าไปในห้องเครื่อง เพราะมันจะหายากเพราะรถเรามีฝาใต้รถ)4. ให้เพื่อนสตาร์ทรถให้ เรายืนดูที่รูไล่ลม จะมีลมฟู่ๆ ออกมา พอลมหมดจะเป็นน้ำที่ผุดออกมา5. หลังน้ำผุดออกมาแล้วให้รีบหมุดสกรูกลับเข้าไปเหมือนเดิมครับ อย่ารอให้น้ำผุดออกมาเยอะเกินไปนะครับ คือถ้ามีน้ำผุดปุ๊บก็ปิดสกรูเลย6. ดูระดับลูกลอยว่าน้ำที่ผุดออกไปทำให้ลูกลอยจมมากไหม ถ้าจมนิดๆ ก็เติมน้ำอีกหน่อยๆ ให้ลูกลอยอยู่ในระดับปกติ จากนั้นก็ปิดฝาหม้อพักน้ำ7. เสร็จเรียบร้อยครับผิดถูกยังไงขออภัยด้วยครับ รอความคิดเห็นท่านอื่นๆ ด้วยครับผม