ขอโทดทีคับ ไม่ค่อยได้เข้ามาดู
add line ผมแทนละกันคับ หากสนใจ : wisit808
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ (อย่าว่าผมนา)
อัพเดตหน่อยละกัน จากที่ติดตั้งมาประมาณ 8 เดือน
1.อุณหภูมิน้ำหม้อน้ำอยู่ระหว่าง 92-100c
2.ไม่มีน้ำรั่วซึม
3. พัดลมทำงานเบาลง (อืมเหมือนจะดี พัดลมมีอายุการใช้งานนานขึ้น แต่ ๆ อาจมีข้อเสียแฝงคือ แอร์อาจเย็นลดลง
เพราะว่า N42 อุณหภูมิน้ำหม้อน้ำอยู่ระหว่าง 102-112c ทำให้พัดลมพัดแรงกว่าแบบของผม
ใกล้หน้าร้อนแล้วมีวันนึง ร้อนมาก ผมจอดตากแดดนาน เครื่องยนต์เย็น น้ำหม้อน้ำก็เย็น ทีนี้ แอร์อาจเย็นช้าลง
เพราะ พัดลมหมุนไม่แรง (อาจเป็นข้อเสียคับ จริงๆแล้วรถทั่วไปกว่าจะเย็นก็น่าจะนานอยู่) ขับ bm ทั้งที รถร้อน(เย็นช้า)มันก็ไงอยู่
จึงเกิดโปรเจคใหม่ (อีกแล้ว) ดังนี้คับ
1.ติด blower (ของตรงรุ่น e46 แต่ผมหาใน realoem ไม่เจอ) ดังรูป จะดูดความร้อนออกจากห้องโดยสาร ค่าใช้จ่ายประมาณ 2000
blower นี้จะทำหน้าที่ดูดความร้อนเมื่ออุณหภูมิในห้องโดยสารสูงกว่า 35c เมื่อสตาร์ทรถ
2.ติดตั้งพัดลมไฟฟ้า ญึ่ปุ่น 10" เป่าคอยร้อน ผลที่ได้จากการติดพัดลมตัวนี้ จะทำให้อุณหภูมิน้ำหม้อน้ำลดลงอีกประมาณ 2-3c คับ ตอนนี้ต่ำสุดของอุณหภูมิหม้อน้ำ 89c คับ เคยเห็นบางท่านในนี้แหละ ติดพัดลมไฟฟ้า e46 2 ตัว ทั้งหน้าและหลัง จะได้อุณหภูมิหม้อน้ำแถว ๆ 88c ผิดถูกไม่แน่ใจ (ใครไม่อยากทำแบบผมก็ติดพัดลมไฟฟ้าตรงรุ่น e46 2 ตัวไปเลย) ค่าใช้จ่ายประมาณ 15003. ติดตั้งระบบสเปรย์น้ำ Water mist ไม่กล้าลงรูป กลัวโดนว่าว่าประหลาด (แต่ผมชอบมาก ๆ) ผลที่ได้ แอร์เย็นเร็วมากๆ ไม่เกินนาที ลมเย็นมาแล้ว ตากแดดแรงไงก็ไม่กลัวแล้ว ข้อเสียอาจจะมีก็ได้ เช่น แผงแอร์ผุ ซึ่งผมก็พยายามป้องกันคือ ฉีดบางช่วง เมื่อสตาร์ทรถ ตั้งอุณหภูมิในห้องโดยสารถ้าสูงกว่า 35c ให้ทำงาน ให้ดูเหมือนอารมณ์ฝนตก ซักพักลมเป่าก็แห้งไปประมาณนี้ ไม่ใช่ฉีดตลอด อันนี้ผุแน่ note ; น้ำที่ใช้ RO คับ ค่าใช้จ่ายประมาณ 5000ปล รถผมอยากให้ตัวเองสบาย ผมก็โมให้ตอบโจทย์ปัญหาของตัวเองมากสุด ในวิถีทางที่เป็นไปได้ หากไม่ดีก็ถอดทิ้ง กลับมาใช้ระบบเดิมได้ บางคนอาจว่าไปแปลงรถ จะไม่ดีก็ได้