จริงๆแล้วอุปกรณ์แก๊ส หรือ อุปกรณ์อื่นๆของรถยนต์ มันมีอายุการใช้งานของมัน จากที่เห็นในรูป ผมว่ารถคันนี้น่่าจะใช้งานอย่างเดียวเลย ไม่มีการดูแลหรือตรวจเช๊คมันมาเป็นเวลานาน ดังนั้นเราควรมีการตรวจเช๊คตามระยะการใช้งาน ไม่ใช่ปล่อยจนมันเปื่อยมันขาดหรือชำรุดครับ ยิ่งถ้าเราใช้แก๊สเราควรดูแลมันมากเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องความร้อน เรื่องของเหลวต่างๆ
ตำแหน่งการวางบางที่อาจจะซ่อน แต่รถผมเองขอเรียกว่าไม่ได้ซ่อนแล้วกันครับ แต่มันอยู่ในตำแหน่งที่ิเหมาะสมที่จะอยู่ ทั้งหม้อต้ม ควรจะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าฝาสูบ เพราะทาลเดินของน้ำ ไม่มีน้ำที่ไหนไหลสู่ที่ต่ำไปสู่ที่สูง ( หัวฉีดแก๊สยิ่งอยู่ใกล้หัวฉีดน้ำมันเท่าไรยิ่งดีทำให้การจ่ายแก๊สจ่ายได้รวดเร็วและแม่นยำ ถ้าไปวางในตำแหน่งที่ไกล มันจำเป็นต้องต่อสายท่อแก๊สให้ยาวขึ้น ทำให้การเดินทางของแก๊สต้องใช้เวลามากขึ้น ) แต่มันโดนปิดทับด้วยฝาครอบพลาสติก การดูแลไม่ยากเลย จะตรวจหรือเช็คเพียงเปิดฝาครอบออก ก็จะเห็นอุปกรณ์ต่างๆครับ ส่วนเรื่องความร้อนผมว่าวัสดุที่เค้าเลือกใช้ มันต้องทนความร้อนได้ในระดับที่สูงระดับนึงเลย ( มิฉะนั้นหัวฉีดน้ำมันคงจะพังในไม่นานด้วยแน่ๆ ) แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ ผมคิดว่าหัวฉีดแก๊สน่าจะต้องเปลี่ยนทุก2ปี เพื่อการทำงานได้อย่างสูงสุดและเต็มประสิทธิภาพของมัน เพราะมันต้องมีการเสื่อมสภาพตามการใช้งาน และอุปกรณ์ต่างๆของแก๊สเช่นท่อแก๊สหรืออื่นๆต้องมีการตรวจเช๊คอย่างสม่ำเสมอ
ขอเห็นแย้งในบางเรื่องครับ เช่นหัวฉีดแก๊สที่ว่าต้องเปลี่ยนทุก 2หมื่นโล
ผมว่าไม่ต้องเปลี่ยนครับ หัวฉีดแก๊สอายุการใช้งานไม่ได้ต่างอะไรกับหัวฉีดน้ำมันเลยนะครับ.
ถามนิดนึงว่าใครเคยเปลี่ยนหัวฉีดน้ำมันบ้างครับ ใช้ไปเถอะครับให้มันพังแล้วค่อยเปลี่ยน ถึงหัวฉีดแก๊สพังมันก็ยังมีน้ำมันวิ่งได้อยู่
ส่วนที่ว่าหัวฉีดต้องอยู่ในจุดที่เหมาะสมน่ะถูกแล้วครับ. สายหัวฉีดยาวได้ครับแต่อย่ายาวมาก (สายหัวฉีดยาวข้อเสียเรื่องเดียวคือรอบเดินเบาไม่ค่อยนิ่งครับ). แต่ไม่ใช่ติดหัวฉีดเอาแบบสายหัวฉีดสั้นแบบ Maintenance ไม่ได้
หม้อต้มต้องอยู่ตำกว่าฝาสูบก็ถูกครับ แต่สมควรที่จะมองเห็นด้วยตาเปล่า แบบไม่ต้องรื้อออกมาดู เพราะถ้ารั่วก็เห็นได้เลย แก้ไขได้ทัน