ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เสียดาย ไม่มีพยาน ไม่มีรูปถ่าย ไว้ป้องกันตัว ถ้าเข้าบอกว่ามีทรัพย์สิน มากกว่านั้น ผมว่ายุ่งแน่ พอไปถึงที่ ก็เห็นรถจอดอยู่ จึงนำกลับมา โดยภายในรถมีโพยบอลและหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับบอลอยู่เพียบเลยก็รู้เลยว่าไอ้คนเช่าไปมันคงติดพนัน ไม่ยอมทำมาหากิน ในกระโปงหลัง ยังมีเครื่องสำอางที่ไอ้คนเช่ามันทิ้งไว้
ถ้าเป็นผมนะครับให้เจ้าของสินค้า(เครื่องสำอางค์) เอาใบเสร็จมายืนยัน ต้องเป็นใบเสร็จที่มีเลขใบกำกับภาษีนะครับ แล้วถ้าเค้าจะไปแจ้งความ ก็ไปที่โรงพัก พร้อมเล่าทุกอย่างให้ร้อยเวรฟังเพื่อไกล่เกลี่ย เพราะเจ้าหน้าที่จะไล่ตั้งแต่ค่าเช่ารถ รวมไปจนถึงว่าค่าเสียเวลาที่เค้าไม่จ่าย เช่นเช่ารถวันละ 500 บาท ค้างค่าเช่า 10 วัน รวมเป็นเงิน 5000 บาท ระหว่างนี้เราไม่กล้าให้ใครเช่าต่อ เพราะกลัวเกิดปัญหาต่างๆนาๆ เป็นเวลา 10 วัน เท่ากับว่าเราขาดรายได้ไป 5000 บาท สรุปว่า 20 วันเราต้องได้รายได้มา 10,000 บาท แต่นี่คือไม่ได้ซักบาทประมาณนี้ครับ เจ้าหน้าที่จะช่วยไกล่เกลี่ยเบื้องต้นให้ก่อนอยู่แล้วครับเคสนี้ออกแนวหัวหมอจริงๆ
ผมให้เช่าและขายแท็กซี่แบบเช่าซื้ออยู่ครับรถที่ลูกค้าผม เช่าซื้อผมอยู่ขอเรียกว่าคุณชัยและผมก็หาคนเช่าขับให้ด้วยเมื่อกลางเดือนกุมภา คนเช่ารถของคุณชัย มันไม่ยอมติดต่อและไม่นำเงินค่าเช่ามาจ่ายให้คุณชัยซึ่งก็คือค้างค่าเช่าอยู่ ห้าพันกว่าบาท ในฐานะที่เรายังเป็นเจ้าของรถอยู่และเป็นห่วงกลัวคุณชัยจะส่งค่างวดไม่ไหวเลยปรึกษากับคุณชัย และตกลงไปตามเอารถคืน วันที่ไปตาม ก็พยายามโทรหาคนเช่า แต่มันปิดเครื่องมาหลายวันแล้วพอไปถึงที่ ก็เห็นรถจอดอยู่ จึงนำกลับมา โดยภายในรถมีโพยบอลและหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับบอลอยู่เพียบเลยก็รู้เลยว่าไอ้คนเช่าไปมันคงติดพนัน ไม่ยอมทำมาหากิน ในกระโปงหลัง ยังมีเครื่องสำอางที่ไอ้คนเช่ามันทิ้งไว้ และเคยบอกว่าของลูกค้า ฝากให้มันเอาไปส่งให้ ซึ่งครั้งสุดท้ายที่มันคุยกับผมก็เป็นอาทิตย์แล้ว (คิดในใจว่าแล้วทำไมมันไม่ส่งให้เค้า)ผมเลยให้คุณชัยเก็บไว้และบอกว่า นี่แหล่ะค่าเช่าที่ค้างอยู่ผ่านไปสองอาทิตย์(ต้นเดือนมีนา)ไอ้คนที่ค้างค่าเช่ามันติดต่อเข้ามา และขอของที่อยู่ในรถทั้งหมดคืน ผมก็บอกมันว่า แล้วค่าเช่าล่ะ จะเอายังไง จ่ายก่อนสิและนัดไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก แต่มันก็ไม่มาตามนัดและหายตัวไป ติดต่อไม่ได้อีกผ่านไปจนเดือนที่แล้ว(พฤษภาคม)มันก็ติดต่อเข้ามาอีก บอกว่ามีเงินครึ่งหนึ่ง เดี๋ยวจะจ่ายก่อนและขอของกลับ ผมก็ติดต่อคุณชัยให้คุยกันเอง เพราะผมเริ่มเบื่อแล้วคืนนั้น มันไปหาคุณชัย และเอาของคืน พร้อมกับบอกว่า ของไม่ครบและไม่ขอจ่ายจนกว่าจะได้ของครบหลังจากนั้น 2-3วัน มันก็โทรหาผมและบอกของไม่ครบ ต้องการของคืนทั้งหมด ผมก็ตอบมันไปว่า ของมีเท่าที่เห็น แล้วทำไมไม่จ่ายตังค่าเช่าที่ค้างอยู่ล่ะ ไอ้คนเช่ามันดันตอบกลับมาว่า ของไม่ครบ และถามผมว่า ผมจะไม่รับผิดชอบใช่มั๊ย เพราะเจ้าของ ของเครื่องสำอางอยู่ด้วย และจะแจ้งความ ผมนี่งงเลย แล้วก็ตอบไปว่า เชิญตามสบาย เพราะของที่อยู่ในรถมันมีอยู่เท่าที่เห็น ไม่ได้เก็บไว้เลย ให้คืนหมด ไอ้คนเช่ารถก็บอกว่า งั้นมันจะพาเจ้าของเครื่องสำอางไปแจ้งความเอาผิดผมแล้วคุณคิดดู จากเจ้าหนี้ดีๆ จะกลายเป็นผู้ต้องหาลักทรัพย์ เพราะไอ้คนโกหกเชื่อถือไม่ได้ ติดการพนัน ค้างค่าเช่ารถหลายพันมันโกหกเจ้าของเครื่องสำอางว่าผมเอาไปซะงั้น ผมนี่เครียดอยู่หลายวันเลย ไม่รู้จะเอายังไงดี จะส่งคนไปเล่นงานมันหรือว่า จะอยู่นิ่งๆ รอดูต่อไปดี เล่นเอาเดือนที่แล้วทั้งเดือน ไม่เป็นอันทำอะไรเลย น่าเบื่อจริงๆ เจอคนเเบบนี้
เครื่องสำอางค์ อะไรครับ มาทิ้งตากแดดไว้ท้ายรถ มีรูปไหมครับ
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินผมให้เช่าและขายแท็กซี่แบบเช่าซื้ออยู่ครับรถที่ลูกค้าผม เช่าซื้อผมอยู่ขอเรียกว่าคุณชัยและผมก็หาคนเช่าขับให้ด้วยเมื่อกลางเดือนกุมภา คนเช่ารถของคุณชัย มันไม่ยอมติดต่อและไม่นำเงินค่าเช่ามาจ่ายให้คุณชัยซึ่งก็คือค้างค่าเช่าอยู่ ห้าพันกว่าบาท ในฐานะที่เรายังเป็นเจ้าของรถอยู่และเป็นห่วงกลัวคุณชัยจะส่งค่างวดไม่ไหวเลยปรึกษากับคุณชัย และตกลงไปตามเอารถคืน วันที่ไปตาม ก็พยายามโทรหาคนเช่า แต่มันปิดเครื่องมาหลายวันแล้วพอไปถึงที่ ก็เห็นรถจอดอยู่ จึงนำกลับมา โดยภายในรถมีโพยบอลและหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับบอลอยู่เพียบเลยก็รู้เลยว่าไอ้คนเช่าไปมันคงติดพนัน ไม่ยอมทำมาหากิน ในกระโปงหลัง ยังมีเครื่องสำอางที่ไอ้คนเช่ามันทิ้งไว้ และเคยบอกว่าของลูกค้า ฝากให้มันเอาไปส่งให้ ซึ่งครั้งสุดท้ายที่มันคุยกับผมก็เป็นอาทิตย์แล้ว (คิดในใจว่าแล้วทำไมมันไม่ส่งให้เค้า)ผมเลยให้คุณชัยเก็บไว้และบอกว่า นี่แหล่ะค่าเช่าที่ค้างอยู่ผ่านไปสองอาทิตย์(ต้นเดือนมีนา)ไอ้คนที่ค้างค่าเช่ามันติดต่อเข้ามา และขอของที่อยู่ในรถทั้งหมดคืน ผมก็บอกมันว่า แล้วค่าเช่าล่ะ จะเอายังไง จ่ายก่อนสิและนัดไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก แต่มันก็ไม่มาตามนัดและหายตัวไป ติดต่อไม่ได้อีกผ่านไปจนเดือนที่แล้ว(พฤษภาคม)มันก็ติดต่อเข้ามาอีก บอกว่ามีเงินครึ่งหนึ่ง เดี๋ยวจะจ่ายก่อนและขอของกลับ ผมก็ติดต่อคุณชัยให้คุยกันเอง เพราะผมเริ่มเบื่อแล้วคืนนั้น มันไปหาคุณชัย และเอาของคืน พร้อมกับบอกว่า ของไม่ครบและไม่ขอจ่ายจนกว่าจะได้ของครบหลังจากนั้น 2-3วัน มันก็โทรหาผมและบอกของไม่ครบ ต้องการของคืนทั้งหมด ผมก็ตอบมันไปว่า ของมีเท่าที่เห็น แล้วทำไมไม่จ่ายตังค่าเช่าที่ค้างอยู่ล่ะ ไอ้คนเช่ามันดันตอบกลับมาว่า ของไม่ครบ และถามผมว่า ผมจะไม่รับผิดชอบใช่มั๊ย เพราะเจ้าของ ของเครื่องสำอางอยู่ด้วย และจะแจ้งความ ผมนี่งงเลย แล้วก็ตอบไปว่า เชิญตามสบาย เพราะของที่อยู่ในรถมันมีอยู่เท่าที่เห็น ไม่ได้เก็บไว้เลย ให้คืนหมด ไอ้คนเช่ารถก็บอกว่า งั้นมันจะพาเจ้าของเครื่องสำอางไปแจ้งความเอาผิดผมแล้วคุณคิดดู จากเจ้าหนี้ดีๆ จะกลายเป็นผู้ต้องหาลักทรัพย์ เพราะไอ้คนโกหกเชื่อถือไม่ได้ ติดการพนัน ค้างค่าเช่ารถหลายพันมันโกหกเจ้าของเครื่องสำอางว่าผมเอาไปซะงั้น ผมนี่เครียดอยู่หลายวันเลย ไม่รู้จะเอายังไงดี จะส่งคนไปเล่นงานมันหรือว่า จะอยู่นิ่งๆ รอดูต่อไปดี เล่นเอาเดือนที่แล้วทั้งเดือน ไม่เป็นอันทำอะไรเลย น่าเบื่อจริงๆ เจอคนเเบบนี้ในข้อความนี้ ย่อหน้าแรก มีพูดถึงเรื่อง เครื่องสำอาง ไว้ด้วยนี่ครับ แล้วทำไมตอนหลังบอกว่าไม่มีละครับ
คนประหลาดมันมีเยอะน่ะครับ มีหนังสือสัญญาเช่ารถรึเปล่าครับ ? ถ้ามีก็ใช้ยันกับตำรวจก่อนว่าให้เขาเช่าไป แล้วเราไปตามเอารถคืนไม่ได้เจอคนเช่า เขาก็ไม่มีหลักฐานว่าของในรถมีเท่าไหร่เหมือนกัน หน้าที่เขาคือจ่ายค่าเช่าคืนเรา ของหายเราไม่น่าจะเกี่ยว