ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผมไม่แน่ใจว่า เจ้าตัว e46มันวาง J ได้รึเปล่า เพราะคิดว่าถ้าวางแล้ว ค่าบำรุงรักษาตัวของเจ้าตัว E46 น่าจะถูกลงรึเปล่า? แล้วเรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน จะสามารถใช้ได้เหมือนเดิม รึเปล่าครับ?ใครมีความรู้ช่วยผมทีนะครับ
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินผมไม่แน่ใจว่า เจ้าตัว e46มันวาง J ได้รึเปล่า เพราะคิดว่าถ้าวางแล้ว ค่าบำรุงรักษาตัวของเจ้าตัว E46 น่าจะถูกลงรึเปล่า? แล้วเรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน จะสามารถใช้ได้เหมือนเดิม รึเปล่าครับ?ใครมีความรู้ช่วยผมทีนะครับพูดง่ายๆนะครับว่า ตัดระบบบีเอ็มทิ้งไปหมดเลย ใช้ได้แค่กดเปิด-ปิดประตูเท่านั้น
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินผมไม่แน่ใจว่า เจ้าตัว e46มันวาง J ได้รึเปล่า เพราะคิดว่าถ้าวางแล้ว ค่าบำรุงรักษาตัวของเจ้าตัว E46 น่าจะถูกลงรึเปล่า? แล้วเรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน จะสามารถใช้ได้เหมือนเดิม รึเปล่าครับ?ใครมีความรู้ช่วยผมทีนะครับพูดง่ายๆนะครับว่า ตัดระบบบีเอ็มทิ้งไปหมดเลย ใช้ได้แค่กดเปิด-ปิดประตูเท่านั้นคือผมแค่กะซื้อมาขับธรรมดาครับ ไม่ต้องการรถแรง แต่ต้องการรถที่ซ่อมถูกครับ เพราะงบไม่ค่อยมี แต่ใจรัก แล้วส่วนพวก ระบบไฟฟ้าต่างๆนี่ยังสามารถใช้ได้อยู่เหมือนเดิมรึเปล่าครับ พวก เบาะไฟฟ้า พวกมาลัยมัลติ แอร์ออโต้ ไรงี้อะครับยังไงก็ช่วยชี้แนะด้วยครับ
เคยใช้ 190e วางเจครับ บอกได้แค่ว่ามันคือโตโยต้าในบอดี้และช่วงล่างbenz แค่นั้นครับ จังหวะของเครื่อง ฟิลลิ่งที่ได้มา มันคือฟิลลิงคล้ายๆอัลติส ซึ่งทีอยู่อีกคันที่บ้านเลยครับหลังจากนั้นผมก็ขายbenz และเลิกคิดถึงเครื่องเจอีกเลย คันe36 compact ที่เครื่องพังไป ผมก็คิดแค่จะวาง m44 หรือ m52 ดี เพราะยังอยากขับbmw ไม่อยากขับโตโยต้าในบอดี้bmwครับไม่ใช่เครื่องเจไม่ดีนะครับ เร่งดี มาไว กว่าเครื่องbenz เดิมทุกอย่าง แต่ที่ไม่ใช่มันคือ ฟิลลิ่ง เท่านั้นครับถ้าใจรักbmw เครื่องเดิมเหมาะสุดครับ เรื่องจุกจิก คือสิ่งที่ต้องทำใจ ตอนนี้บ้านผมขายหมดแล้วทั้งวีออสและอัลติส ไม่เหลือรถโตโยต้าที่นิ่งๆดีๆไม่ค่อยต้องซ่อมไว้ใช้แล้วมีแต่รถดื้อๆอย่างe36และe46 ไว้ผลัดกันเข้าอู่
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินผมไม่แน่ใจว่า เจ้าตัว e46มันวาง J ได้รึเปล่า เพราะคิดว่าถ้าวางแล้ว ค่าบำรุงรักษาตัวของเจ้าตัว E46 น่าจะถูกลงรึเปล่า? แล้วเรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน จะสามารถใช้ได้เหมือนเดิม รึเปล่าครับ?ใครมีความรู้ช่วยผมทีนะครับคนอื่นตอบไปเกือบหมดแระ ผมขอถามกลับดีกว่า ที่ต้องการไปกิน J เนื่องจาก....ตอนนี้เครื่องที่ติดรถเป็นอะไร และเครื่องตัวไหน เหตุผลคืออยากแรงขึ้นหรืออยากลดค่าดูแลบำรุงรักษา (ขอรายระเอียดส่วนนี้ก่อน) ผมถึงจะตอบได้ครับว่าควรไปแนวไหน (เพราะส่วนตัวผมไม่ยึดติด ว่าทุกอยางในรถมันมาเป็น bm เวลาซ่อมหรือเปลี่ยน มันต้องเป็น bm เท่านั้น) เพราะรถของแต่ละยี่ห้อมันมีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่มีแต่ข้อดี เพียงแค่เราเห็นข้อเสียของมันหรือเปล่าว (ส่วนใหญ่จะเห็นแล้วทำเป็นไม่เห็น) (อันนี้คือพวกที่ยึดติดไม่ค่อยยอมรับว่ารถที่ใช้มันมีข้อเสีย) แต่สำหรับผมไม่ใช่ ถ้าเห็นแล้วว่าส่วนไหนคือข้อเสีย ผมจะจัดการส่วนนั้นทิ้งไปทันที โดยไม่รังเรเลย (ถึงแม้ชิ้นที่แก้ไขจะไว้ใช้กับรถยุ่นก็ตาม) ถ้ามันดีกว่า ผมเอามาใส่แทนหมดแหละครับไม่สนผมถึงถามกลับไงครับ ว่าที่อยากวาง J จุดประสงค์จริงๆคืออะไร ? (ถ้าหมายถึงการที่กลัวว่าเวลาเครื่องจะพัง bm ซ่อมแพงกว่านั้น) จริงๆแล้วค่าซ่อมพอๆกับเครื่อง J นั้นแหละ อันนี้สำหรับ เครื่องตระกูล m นะครับ
ถ้าโจทย์คือค่าซ่อม เจธรรมดาตอบโจทก์ได้เลย ทนอย่างแรด ใช้งานแบบคุ้มๆวิ่งกระจายติดแก๊สโลละบาทห้าสิบถึงสองบาท สบายบรือ ผมกำลังเล็งๆตะกุล uz ครับ ติดหนึ่งในสิบเครื่องที่่ดีที่สุดในโลก นั่งบีเอ็มวาง uz แล้วติดใจครับ ความเร็วสองร้อยรอบแค่สี่พัน v8 สูบเดินเรียบเนียนมาก ไม่มีสั่นเต้นเลยกำลังตามหาหัวเลกซัส ใครผ่านหูผ่านตาบ้างกระซิบหน่อย เอารูปมาให้ชมเล่นๆ 3uz
ผู้เขียน
หัวข้อ: ถ้านำ e46 ไปวางเครื่อง J+ติดแก๊ส จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมได้ไหมครับ? (อ่าน 8084 ครั้ง)
