[jeda_anan]

ตอนนี้ผมขับมาสด้า 3 ปี 2011 เครื่อง 2.0 อยู่ครับ แต่ใจชอบบีเอ็มมานานแล้ว ตอนนี้กำลังดุมือ 2 อยู่ 2 รุ่นคือ E 46 + E90 ครับ
       
           ขออนุญาตบอกแบ๊คกราวน์นะครับ ส่วนตัวผมเป็นคนขับค่อนข้างเร็วถึงเร็วมาก (ปกติขับในเมืองก็ 80-140 แล้วแต่จังหวะ) และเป็นคนชอบแนวสปอร์ตๆ ชอบรถที่มีกำลังดี แต่ราคาน้ำมันก็ทำให้ปาดเหงื่อครับ ผมขับมาสด้าอยู่ ประมาณ 4 เดือน ค่าน้ำมันชักไม่ไหว เพราะผมไปไหนชอบขับรถเองหมด เดือนแรก- เดือนที่ 4 ค่าน้ำมันเป็น 5 พัน + 7 พัน + 8 พัน + หมื่นนึง ครับ เลยไม่ไหวมาติดแก๊ส ช่วยได้เยอะ ตอนนี้คิดจะขายเพราะมาสด้าตัวใหม่จะออกมาด้วย ไม่งั้นราคาจะตกยิ่งกว่านี้และจะทำให้ผมจับบีเอ็มยากขึ้นอีกครับ คือกลายเป็นทู้ซี้ใช้ไป มันจะช้ำใจไปด้วยครับ ตอนนี้ถ้าขายมาสด้าที่ใช้ก็น่าจะเหลือติดตัวประมาณ 5หมื่นได้ครับ
           ตัวที่เล็งไว้นะครับ
ถ้า E46 เพื่อนผมแนะนำว่าตัว 323 ติดแก๊สได้ไม่มีปัญหา ติดกันเยอะ และน่าจะตอบโจทย์การขับผมได้ีดีมาก และราคาตอนนี้อยู่ประมาณ 5 แสน ผมก้ประมาณเดือนละ หมื่นได้  (อันนี้ผมผ่อนไหวเพราะผ่อนมาสด้าประมาณนี้อยู่แล้ว) สรุปว่าเท่าที่ได้ข้อมูลมาตัวนี้เป็นตัวที่สมเหตุสมผมมากในเรื่องการขับ + การผ่อน + สบายกระเป๋าไม่ต้องกังวลค่าใช้จ่ายมาก แต่ยังไม่ได้ทดลองขับครับ
แต่ E90 ผมชอบมากกว่า E46 เพราะมันรุ่นใหม่กว่า บอดี้เฉี่ยวกว่า ดูสปอร์ตกว่า เท่าที่เช็คราคามาเบื้องต้น ราคาตอนนี้ปี2005 ขึ้นไป 6 แสนกว่าก็มีแล้ว แต่ผมอยากรู้ว่า1. E 90 รุ่นไหนที่สามารถตอบโจทย์การขับผมได้น่ะครับ 2.ถ้าติดแก๊สจะมีปัญหามั้ย (ปัจจุบันติดแก๊สคันมาสด้า ใช้ดีไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ) 3.สามารถผ่อนเดือนละประมาณไม่เกิน 1 - 15000 บาทเป้นไปได้มั้ยครับ
ขอบคุณพี่ๆมากครับ

[ooooatooo]

ผมเองก็ขับมาสด้า 3 มาก่อน มันมีอะไรที่คล้ายกันครับ ถ้าในความคิดผม มาสด้า 3 เป็นรถญี่ปุ่นที่คลาสสูงครับ

ในมุมมองของผม (ส่วนตัวของผมนะครับ) มาสด้า 3
1.พวงมาลัยหนัก
2.ประตูหนัก
3.กินยางด้านใน

เอาหลักๆ 3 ข้อ ซึ่งในบีเอ็มเราก็มีเหมือนกัน แต่สิงที่ผมมองแตกต่างของบีเอ็มคือ
1.ราคาอะไหล่บางตัวพอๆกัน
2.ตัวบอดี้ ความหนาของเหล็ก
3.ระบบต่างๆของรถ และยี่ห้อ

ด้วยราคา และการดีไซน์ และความชอบส่วนตัว ผมจึงเลือกใช้ BMW ครับ

ส่วนถ้ามีงบราวๆ 6 แสน บวกลบ ผมยังมองตัว E46 330 อยู่ เพราะระบบจะ Full option ทุกอย่าง เพราะถ้า 6 แสนมองตัว E90 มันจะเป็นตัวที่สเป็กด้อยมาก มีแค่ดีไซน์ภายนอก สมรรถนะเอาให้หนึบจริงๆผมก็ยังเลือก E46 อยู่ ถ้าจะทำให้ E90 หนึบๆก็ต้องใช้งบพอสมควรถึงสูงครับ

ราคาค่าซ่อม พูดง่ายๆว่า Series 3 เนี่ย ค่าอะไหล่ไม่แพงมากเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตัวไหนราคายังพอรับได้อยู่บ้าง ซึ่ง E90 ยังมีตัวที่เครื่องเป็น N46 เหมือนกันนะครับ โดยเครื่องตัวนี้มีอยู่ใน E46 รุ่นท้ายๆเลย ถ้าถามผมว่าเครื่อง N กับ M ผมจะเลือก M ครับ เพราะเป็น 6 สูบ ปัญหาความร้อนน้อยกว่า ค่าอะไหล่ถูกกว่า(หลายอย่างที่ถูกกว่าครับ) แต่ไม่ใช่ว่าเครื่อง N มันไม่ดีนะ ดูแลดีๆก็จบครับ แค่ใช้งบสูงหน่อยเท่านั้นเอง และ 6 สูบ มันสนอง Needs ผมได้เยอะกว่า

ตอนนี้ E46 อยู่ในราคาที่จับต้องกันได้ ของแต่งไม่แพงครับ เกือบครึ่งๆของ E90 เลยสำหรับของแต่ง แต่ทุกอย่างก็อยู่ที่การตัดสินใจครับ ณ ตอนนี้ ผมยังเลือก E46 อยู่ แต่ในอนาคตก็อาจจะขยับรุ่นเหมือนกันครับ

 

[jeda_anan]

ขอบคุณครับ ที่มาให้คำแนะนำ แต่ผมยังสงสัยว่าถ้าติดแก๊สจะมีปัญหามั้ยครับ และคุ้มค่ามั้ยในกรณีว่าตั้งใจขับสัก 2-3ปีน่ะครับ

[X-talize]

ขอบคุณครับ ที่มาให้คำแนะนำ แต่ผมยังสงสัยว่าถ้าติดแก๊สจะมีปัญหามั้ยครับ และคุ้มค่ามั้ยในกรณีว่าตั้งใจขับสัก 2-3ปีน่ะครับ

E46 ติดแก๊สมาปีครึ่ง เครื่องM54 วิ่งมาสี่หมื่นกว่ากิโล จากน้ำมันโลละ 4 บาทเหลือลงมาใช้แก๊สไม่เกินโลละ 2 บาท
ประหยัดโลละ 2 บาทสี่หมื่นโลก็ 8 หมื่นบาท ค่าติดแก๊ส 4 หมื่นก็คุ้มทุนมา 4 หมื่นแล้วครับ
(เคยมีผู้รู้บางท่านบอกไว้เหมือนกันว่า เครื่อง BM เขาเตรียมช่องเจาะรูไอดีสำหรับติดตั้งแก๊สไว้อยู่แล้ว)
เพียงแต่ว่า E90. ไม่มีหลุมยางอะหลั่ยให้ใส่โดนัท ต้องติดถังแคปซูลอย่างเดียว

[tom46]

เท่าที่อ่านๆจากสมาชิกนะครับ ถ้าจะติดแก็ส เอา 46 บล็อค M ใช้ดีกว่าครับ เท่าที่เห็นมักไม่ค่อยมีปัญหาครับ

ส่วน 90 ถ้าเป็นผม ผมจะเสาะหาตัวที่เป็น 330 ครับ เน้นเครื่องใหญ่ไว้ก่อนครับ

[Krisada511]

ถังโดนัท
ติดตั้งได้ครับ ตามนี้ ต้องดัดแปลงหน่อย





กระทู้ อยากเล่น E90

ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

[jeda_anan]

ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่มาตอบครับ ตอนนี้น่าจะเป็น 323iase ครับ และผมมีแก๊สเวอซุซขนาด 42 ลิตรอยู่จากมาสด้า 3 เป็นแบบโดนัท ถ้าถอดออกมาใช้กับตัว + มีลำโพง เครื่องเสียง แบบ 2din ถอดออกมาติดE46 จะได้มั้ยครับ

[ooooatooo]

ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่มาตอบครับ ตอนนี้น่าจะเป็น 323iase ครับ และผมมีแก๊สเวอซุซขนาด 42 ลิตรอยู่จากมาสด้า 3 เป็นแบบโดนัท ถ้าถอดออกมาใช้กับตัว + มีลำโพง เครื่องเสียง แบบ 2din ถอดออกมาติดE46 จะได้มั้ยครับ

เครื่องเสียงถ้าเอามาใส่ต้องแปลงฐานด้วยนะครับ มันจะยื่นออกมาเยอะพอสมควรเลย เดี๋ยวมาอธิบายต่อ แว๊นก่อน

[jeda_anan]

ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่มาตอบครับ ตอนนี้น่าจะเป็น 323iase ครับ และผมมีแก๊สเวอซุซขนาด 42 ลิตรอยู่จากมาสด้า 3 เป็นแบบโดนัท ถ้าถอดออกมาใช้กับตัว + มีลำโพง เครื่องเสียง แบบ 2din ถอดออกมาติดE46 จะได้มั้ยครับ

เครื่องเสียงถ้าเอามาใส่ต้องแปลงฐานด้วยนะครับ มันจะยื่นออกมาเยอะพอสมควรเลย เดี๋ยวมาอธิบายต่อ แว๊นก่อน

รบกวนแนะนำด้วยนะครับ ผมจะได้ไปเอาทุกอย่างออกจากคันเก่า แล้วประกาศขายไปน่ะครับ

เครื่องเสียงเป็น pioneer avh-x5550bt ครับ

[spiritzas]

เชียร์E46ครับ

[eam]

เชียร์ 46 อีกเสียงคร้าบ....ข้อดีมีมากมาย ข้่อเสียมีอย่างเดียวคือใช้บีเอ็มแล้วไม่อยากขับอย่างอื่นอีก

[ooooatooo]

ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่มาตอบครับ ตอนนี้น่าจะเป็น 323iase ครับ และผมมีแก๊สเวอซุซขนาด 42 ลิตรอยู่จากมาสด้า 3 เป็นแบบโดนัท ถ้าถอดออกมาใช้กับตัว + มีลำโพง เครื่องเสียง แบบ 2din ถอดออกมาติดE46 จะได้มั้ยครับ

เครื่องเสียงถ้าเอามาใส่ต้องแปลงฐานด้วยนะครับ มันจะยื่นออกมาเยอะพอสมควรเลย เดี๋ยวมาอธิบายต่อ แว๊นก่อน

รบกวนแนะนำด้วยนะครับ ผมจะได้ไปเอาทุกอย่างออกจากคันเก่า แล้วประกาศขายไปน่ะครับ

เครื่องเสียงเป็น pioneer avh-x5550bt ครับ

ต่อๆ

ก็คือว่า ของเดิมมันจะมีกรอบอยู่ เราต้องถอดกรอบออกครับ (รูปปลากรอบจากเนตนะครับ)


หลังจากนั้นพอเราถอดออก มันจะดูโบ๋ๆหน่อย


แต่...มันมีตู้แอร์อยู่ด้านหลัง พอเรายัด 2 Din ลงไป มันจะติดตู้แอร์ครับคือพอยัดแล้วมันจะยื่นออกมาเกือบนิ้วนึง ดูแล้วไม่สวยงามเท่าไหร่

เมื่อเปรียบเทียบขนาดฟร้อนซึ่งด้านหน้าเท่ากันแต่ด้านหลังมันมาแบบเต็มๆ 2 Din เลย



ส่วนแบบตรงรุ่น E46 เราเนี่ย ภาษาช่างเค้าเรียกกันว่า 1.5 Din หรือ ดินครึ่ง



สรุปให้ว่า ถ้าจะใส่แบบ 2 Din เต็มๆเนียนๆเลยมีทางเดียวคือต้องเฉือนกรอบพลาสติกตู้แอร์และก็เชื่อมไม่ให้มีรอยรั่ว เพราะไม่งั้นไอความเย็นจะซึมออกมาโดนฟร้อน นานๆเข้าจะเกิดไอน้ำ ฟร้อนจะพังง่ายครับ

คราวนี้มาต่อกันเรื่องระบบดีกว่า

ถ้าระบบของ 2 Din ญี่ปุ่น ฟังก์ชั่นและลูกเล่นเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็น input / output รองรับไฟล์ DVD MP3 MPEG4 อะไรต่อมิอะไรทั้งหลายแหล่ รวมไปถึงระบบ Bass booster ที่ระบบ Pioneer ออกแบบมาเพื่อเพิ่มแรงขับของ Sub แต่เมื่อใส่ตัวนี้เข้าไปแล้วเหมือนที่บอกด้านบน ถ้าไม่นับเรื่องต้องเฉือนตู้แอร์ล่ะก็
1.คอนโทรลพวงมาลัยจะใช้ไม่ได้ ถ้าจะใช้ได้ต้องเพิ่มกล่องคอนโทรลต่างหาก ส่วนราคาก็ 2500-3500 แล้วแต่ว่าร้านจะขายกันเท่าไหร่
2.สัญญาณวิทยุ ถ้าจะใช้เสาอากาศเดิมที่อยู่ตรงกระจกหลังต้องซื้อปลั๊กแปลง ราคาไม่กี่สิบบาท แต่ร้านส่วนมากจะไม่ค่อยเอามาขาย ต้องเดินบ้านหม้อครับ เพราะถ้าตามร้านเค้าจะแนะนำให้ใช้เสาในรถตัวสี่เหลี่ยมเล็กๆ (เหมือนเสา GPS อ่าครับ) ราคาหลักร้อยถึงหลักพันบาท
3.ระบบเครื่องเสียงที่ต่อคือเดินลำโพงใหม่ทั้งคัน ตัดต่อสายเพื่อวางระบบลำโพงหน้า หลัง เบส กลาง แหลม

ระบบนี้ถ้าทำแล้วเสียงไม่ได้แย่นะครับ ถือว่าดีเลยล่ะ ผมยังใช้ 1 Din popup ของ Pioneer เลย

ถ้าเป็นระบบ 2 Din ที่เราเรียกติดปาก หรือ 1.5 Din ตรงรุ่นของเราน่ะเหรอ เอามาเสียบฉึบๆ ไม่ต้องตัดต่ออะไร ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น เสาวิทยุ คอนโทรลพวงมาลัย ใช้ได้เลย ถ้าจะต้องเก็บสายเพิ่มก็จะมีพวกสาย GPS สายไมค์โครโฟนเพื่อใช้เวลาเราต่อ Bluetooth โทรศัพท์หรือฟังเพลง

ทั้ง 2 อย่าง ลงทุนพอๆกัน ต้องชั่งใจถึงข้อดีและข้อเสียดูครับว่าชอบแบบไหนครับ

 

[jeda_anan]

ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่มาตอบครับ ตอนนี้น่าจะเป็น 323iase ครับ และผมมีแก๊สเวอซุซขนาด 42 ลิตรอยู่จากมาสด้า 3 เป็นแบบโดนัท ถ้าถอดออกมาใช้กับตัว + มีลำโพง เครื่องเสียง แบบ 2din ถอดออกมาติดE46 จะได้มั้ยครับ

เครื่องเสียงถ้าเอามาใส่ต้องแปลงฐานด้วยนะครับ มันจะยื่นออกมาเยอะพอสมควรเลย เดี๋ยวมาอธิบายต่อ แว๊นก่อน

รบกวนแนะนำด้วยนะครับ ผมจะได้ไปเอาทุกอย่างออกจากคันเก่า แล้วประกาศขายไปน่ะครับ

เครื่องเสียงเป็น pioneer avh-x5550bt ครับ

ต่อๆ

ก็คือว่า ของเดิมมันจะมีกรอบอยู่ เราต้องถอดกรอบออกครับ (รูปปลากรอบจากเนตนะครับ)


หลังจากนั้นพอเราถอดออก มันจะดูโบ๋ๆหน่อย


แต่...มันมีตู้แอร์อยู่ด้านหลัง พอเรายัด 2 Din ลงไป มันจะติดตู้แอร์ครับคือพอยัดแล้วมันจะยื่นออกมาเกือบนิ้วนึง ดูแล้วไม่สวยงามเท่าไหร่

เมื่อเปรียบเทียบขนาดฟร้อนซึ่งด้านหน้าเท่ากันแต่ด้านหลังมันมาแบบเต็มๆ 2 Din เลย



ส่วนแบบตรงรุ่น E46 เราเนี่ย ภาษาช่างเค้าเรียกกันว่า 1.5 Din หรือ ดินครึ่ง



สรุปให้ว่า ถ้าจะใส่แบบ 2 Din เต็มๆเนียนๆเลยมีทางเดียวคือต้องเฉือนกรอบพลาสติกตู้แอร์และก็เชื่อมไม่ให้มีรอยรั่ว เพราะไม่งั้นไอความเย็นจะซึมออกมาโดนฟร้อน นานๆเข้าจะเกิดไอน้ำ ฟร้อนจะพังง่ายครับ

คราวนี้มาต่อกันเรื่องระบบดีกว่า

ถ้าระบบของ 2 Din ญี่ปุ่น ฟังก์ชั่นและลูกเล่นเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็น input / output รองรับไฟล์ DVD MP3 MPEG4 อะไรต่อมิอะไรทั้งหลายแหล่ รวมไปถึงระบบ Bass booster ที่ระบบ Pioneer ออกแบบมาเพื่อเพิ่มแรงขับของ Sub แต่เมื่อใส่ตัวนี้เข้าไปแล้วเหมือนที่บอกด้านบน ถ้าไม่นับเรื่องต้องเฉือนตู้แอร์ล่ะก็
1.คอนโทรลพวงมาลัยจะใช้ไม่ได้ ถ้าจะใช้ได้ต้องเพิ่มกล่องคอนโทรลต่างหาก ส่วนราคาก็ 2500-3500 แล้วแต่ว่าร้านจะขายกันเท่าไหร่
2.สัญญาณวิทยุ ถ้าจะใช้เสาอากาศเดิมที่อยู่ตรงกระจกหลังต้องซื้อปลั๊กแปลง ราคาไม่กี่สิบบาท แต่ร้านส่วนมากจะไม่ค่อยเอามาขาย ต้องเดินบ้านหม้อครับ เพราะถ้าตามร้านเค้าจะแนะนำให้ใช้เสาในรถตัวสี่เหลี่ยมเล็กๆ (เหมือนเสา GPS อ่าครับ) ราคาหลักร้อยถึงหลักพันบาท
3.ระบบเครื่องเสียงที่ต่อคือเดินลำโพงใหม่ทั้งคัน ตัดต่อสายเพื่อวางระบบลำโพงหน้า หลัง เบส กลาง แหลม

ระบบนี้ถ้าทำแล้วเสียงไม่ได้แย่นะครับ ถือว่าดีเลยล่ะ ผมยังใช้ 1 Din popup ของ Pioneer เลย

ถ้าเป็นระบบ 2 Din ที่เราเรียกติดปาก หรือ 1.5 Din ตรงรุ่นของเราน่ะเหรอ เอามาเสียบฉึบๆ ไม่ต้องตัดต่ออะไร ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น เสาวิทยุ คอนโทรลพวงมาลัย ใช้ได้เลย ถ้าจะต้องเก็บสายเพิ่มก็จะมีพวกสาย GPS สายไมค์โครโฟนเพื่อใช้เวลาเราต่อ Bluetooth โทรศัพท์หรือฟังเพลง

ทั้ง 2 อย่าง ลงทุนพอๆกัน ต้องชั่งใจถึงข้อดีและข้อเสียดูครับว่าชอบแบบไหนครับ

 

งี้กลายเป็นเรื่องใหญ่เลยนะครับเนี่ย ถ้าชั่งเอาแบบนี้ของตรงรุ่นน่าจะดีกว่า เพราะไม่ต้องตกแต่งมาก ไม่เสี่ยงกับต้องมาเฉือนตู้แอร์ด้วย งี้ผมถอดออกมาเก็บไง้ดีกว่ามั้งครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆมากเลยครับ

[tom46]

จอแบบนี้ ถ้าเป็นผม (เห็นที่ๆจะต้องตัดแล้วกลัว) น่าจะเอาพวก จอ din ครึ่ง มาใส่ดีกว่าครับ แล้วไปปรุงแต่งเอาที่พวก bit one หรือ  bit ten (แล้วแต่งบประมาณ) เสียงก็น่าจะโอนะครับ